Search
Advertisement
Categories

เล่าสู่กันฟัง 3

วันพฤหัสฯ 11:00 ทางกระทรวงศึกษาธิการของรัฐควีนส์แลนด์มารับครูป้านไปดูโรงเรียน 2-3 แห่ง ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ ส่วนพี่ปุ่นพาไอฟ้าไปหาหมอเนื่องจากมีตุ่มเล็กๆขึ้นในเปลือกตาและปวดนิด หน่อย  คลีนิกอยู่ใกล้ๆโรงเรียนนี่แหละค่ะ  นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่พาเด็กไปหาหมอ  คนแรกคือต้นไทรที่เป็นหวัดมาจากเมืองไทย  หมอคิดค่าตรวจ 56 AUD เท่ากันทั้ง 2 ครั้ง น่าจะเป็นราคามาตรฐาน หมอออกใบสั่งยาให้ต้องนำใบสั่งไปซื้อที่ร้านขายยาที่โรงเรียนเวลาเด็กปวดศรีษะ เค้าจะใช้น้ำแข็งประคบที่ศรีษะ ไม่ให้ทานยาแก้ปวด โรงเรียนไม่มีสิทธิให้ยาเด็กแม้กระทั่งยาแก้ปวดค่ะ

เรย์ที่ขาแว่นหักตอนนี้ได้ขาแว่นใหม่เรียบร้อยแล้ว เด็กๆถามราคาค่าขาแว่น ครูป้านบอก 130 ดอลล่า เรย์แย้งทันทีว่า 131 ดอลล่า  ขอโทษเรย์..ครูป้านผิดไปแล้ว

มีเรื่องขำๆ มาเล่าให้ฟัง วันนึงปริมบอกครูป้านว่าอยากซื้อลิปสติกที่เป็นสเก็ตบอร์ด แต่ของหมด ที่ร้านบอกว่าอีก 2-3 วันของถึงจะมา  2 วันถัดมา ปริมโทรหาครูป้านที่บ้าน

  • ปริม: หนูไปที่ร้านมาอีกที แต่ของยังไม่มาเลย
  • ครูป้าน: อันเท่าไหร่น่ะปริม
  • ปริม: 150 ค่ะ
  • ครูป้าน: 150 บาท เหรอ
  • ปริม: 150 ดอลล่าค่ะ
  • ครูป้าน: ฮ้า!! ทำไมแพงจัง แล้วปริมจะเอาไปให้ใครใช้
  • ปริม: หนูใช้เอง
  • ครูป้าน: ปริมเนี่ยนะใช้ลิปสติกราคา 150 ดอลล่า
  • ปริม: (เสียงเข้ม) ครูป้าน…มันคือ Rip Stick เป็นสเก็ตบอร์ดชนิดใหม่
  • ครูป้าน: !!???

วันศุกร์น้ำผึ้งมีลูกอมมาเยอะแยะตามเคย โฮสต์น้ำผึ้งทำงานอยู่บริษัทผลิตขนมพวกนี้ และจะให้น้ำผึ้งนำมาสัปดาห์ละครั้ง ให้มาเยอะค่ะ น้ำผึ้งก็จะใจดีนำมาแบ่งเพื่อนๆ ทุกครั้ง

  • น้ำผึ้ง: ใครอยากกินขนมของเรามั่ง หยิบเลย
  • เพื่อน: อ้าปากค้าง….เพราะยังไม่ทันตอบ น้ำผึ้งก็เก็บขนมซะแล้ว 555
  • ครูป้าน: น้ำผึ้ง!มันเร็วไปเปล่า เพื่อนยังไม่ทันหยิบเลย
  • น้ำผึ้ง: แหะๆ เห็นไม่มีใครตอบ นึกว่าไม่เอา

วันนี้คลาสภาษาอังกฤษ Mrs. Wood สอนเรื่อง Map ให้เด็กๆหัดอ่านแผนที่และสัญลักษณ์ต่างๆ เริ่มจาก Homestay ของตนเอง ไปจนถึงเมืองหลวงของรัฐต่างๆ ทะเลรอบๆออสเตรเลีย

10:40 ที่โรงเรียนมีการซ้อม Lock Down เมื่อได้ยินเสียง Alarm เด็กทุกคนต้องหมอบลงพื้นหรือมุดใต้โต๊ะ  ล็อคประตูหน้าต่าง  จากนั้นคุณครูประจำวิชาทำการเช็คชื่อเด็กว่าทุคนอยู่่ครบปลอดภัยดี ต่อมามีเจ้าหน้าที่โรงเรียนมาตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง   Lock Down เป็นการซ้อมหลบภัยในกรณีเกิดเหตุการณ์ร้าย เช่น ผู้ก่อการร้าย หรือมีบุคคลเข้ามาทำอันตรายในโรงเรียน  เด็กไทยส่วนมากไม่รู้จัก Lock Down บางคนบอกที่โรงเรียนเคยมีการซ้อมหนีไฟ บางคนบอกไม่มีทั้ง 2 อย่าง ตามโรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยจะมีการซ้อมแบบนี้เหมือนกันค่ะ  เด็กๆมีคำถามมากมายเกี่ยวกับ Lock Downแล้วก็สนุกสนานกับการจินตนาการเหตุการณืไปต่างๆนานา

  • Bambi:ที่โรงเีรียนหนูเคยมีเสียงปัง ปัง ปัง…..ที่จริงมันคือเสียงคนกำลังก่อสร้างค่ะ
  • Bambi:ที่โรงเีรียนหนูเคยมีกลิ่นไหม้…..ที่จริงมันเป็นกลิ่นไก่ย่างค่ะ
  • Bambi:ที่โรงเีรียนหนูเคยมีเลือดแดงๆที่พื้น…..ที่จริงมันคือซอสมะเขือเทศไว้กินกับไก่ย่างค่ะ

เด็กหลายคนบ่นอยากทานข้าว บางคนยังไม่กล้าบอกโฮสต์  บางคนบอกแต่ได้ทานนิดเดียว  โฮสต์บ้านที่ไม่เคยทานอาหารเอเชี่ยนเลยจะนึกภาพไม่ออกว่าเราทานกันแค่ไหนและ อย่างไร ป้านก็สอนให้เด็กบอกรายละเอียดเค้ามากกว่านี้  บางคนอยากทานไข่เจียว ได้ไข่ดาว  บางคนได้ไข่เจียวแต่เพี๊ยนหน่อย

ที่หายไปหลายวันเพราะมีแขกมาบ้านค่ะ  ครูป้านเลยไม่อยากนั่งอยู่่หน้าคอมตลอดเวลา เพราะเกรงใจ

ที่เห็นรูปสะพานอยู่รูปนึง เป็นทางข้ามจากประถมไปฝั่งมัธยมค่ะ

คืนวันศุกร์ที่โรงเรียนประถมมี Disco Night ตั้งแต่ 5:30 – 8:30 pm ถ้าซื้อบัตรก่อนวันงานราคา 7 AUD แต่ถ้าซื้อวันงานราคา 8 AUD ค่ะ มีการจับรางวัล Ripstik 1 รางวัล ด้วย เด็กเราส่วนมากไม่รู้ว่า  Disco Night คืออะไร  ครูป้านก็อธิบายให้ฟัง  และบอกเด็กๆว่าถ้าอยากมาร่วมงานให้บอกกับโฮสต์ บางคนก็อยากมา บางคนก็ไม่อยากมา  คนที่ไม่อยากมาก็มีเหตุผลต่างๆนาๆ เช่น เอยเจ็บเท้าเนื่องจากโชว์ผลงานฟุตบอลมากไปหน่อย  แบมบี้ไม่ชอบเสียงดัง มิ้นตอนแรกบอกไม่อยากมาแต่เปลี่ยนใจนาทีสุดท้ายโฮสต์จึงไม่สามารถจัดการให้ ได้  บิวตี้กับหยกอยากไปซื้อเกม ต้นไทร ป๊อบ เร ไม่อยากเต้น  สรุปแล้วมีเด็กมา 12 คน

ได้เวลา เด็กๆก็เริ่มทยอยกันมา กลุ่ม Godmother มาครบ  โมมาถึงถามว่าไม่เห็นบัดดี้โมมาเลย  อ้าวโม!!ก็นี่มันงานเด็กประถม  บัดดี้หนูอยู่มัธยมจะมาได้ไงล่ะคะ

เมื่อเข้ามาในงานเด็กๆสามารถรับ Sausage Sizzle กับเครื่องดื่มได้ 1 กระป๋อง โรงเรียนให้เด็กประถมทุกระดับมาร่วมงานได้ แต่เด็กตั้ั้งแต่ Year 2 ลงมาต้องมีผู้ปกครองมาดูแล  มีผู้ปกครองอาสาหลายคนรวมทั้งผู้ช่วยครูใหญ่มาช่วยกันที่ Tuckshop เพราะค่อนข้างยุ่งต้องแจก Sausage Sizzle และเครื่องดื่ม และต้องขายของด้วยชั่วโมงแรกเด็กไทยไม่มีใครกล้าเต้นเลยค่ะยืนนิ่งเป็น อนุสาวรีย์  ผ่านไป 1 ชั่วโมง ครูป้านเข็น หลุยส์ น้ำผึ้ง เบล พิน ออกไปเต้นสำเร็จ  จากนั้น Godmother นำโดยปริมมาบอกครูป้านว่า อยากเต้นแต่ไม่มีใครนำ  ครูป้านบอกนู่นเพื่อนๆออกไปเต้นอยู่โน่นแล้ว  นั่นคือตจุดเริ่มต้นของความมันส์  ครูป้านจำไม่ได้ว่าปริน โอม และโม เริ่มเต้นกันตอนไหน

ครูใหญ่ (ที่ผมซอยสั้นใส่ชุดดำ) ก็มาเต้นกับเด็กๆอย่างสนุกสนาน  กลุ่ม Godmother ของเราเต้นกันแบบหลุดโลกจริง  ส่วนเด็กๆคนอื่นๆก็ไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่ ไม่เว้นแม้แต่ โม โอม หรือ ปริน  ตอนที่โมขอโฮสต์ว่าจะมางานนี้  โฮสต์พูดว่า You not gonna dance Mo!!  ตอนที่เต้นอยู่ โม..พูดว่าปกติหนูเป็นเด็กเรียนนะคะ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย

มีอยู่รูปนึง Mrs. Duffy รองครูใหญ่ ชู Ripstik ขึ้นมา ตอนนั้นเป็นการจับสลากรางวัลค่ะ ลุ้นกันน่าดู  นี่หละค่ะหน้าตาเจ้า Ripstik

ทั้งครูใหญ่และวิ๊กกี้เห็นเด็กเราหลุดโลก  ยืนมองด้วยความงงงวยเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง (อย่าว่าแต่คนอื่นเลยค่ะ ครูป้านยังไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง) พอเริ่มชั่วโมงที่ 3 เด็กฝรั่งเริ่มหมดแรงแล้ว แต่เด็กเรากำลังฮึกเหิมเพราะเริ่มทีหลังเค้า  งานเลิก..กลุ่ม Godmother เหงื่อท่วมเสื้อเปียก  ครูป้านก็ดีใจที่เด็กๆได้สนุกสนาน ปลดปล่อยความเครียด ความคิดถึงบ้าน แต่ก็คิดถึงเด็กๆที่ไม่ได้มา  อยากให้ทุกคนมาสนุกด้วยกัน  เด็กๆเองก็คงไม่ได้คาดคิดว่ามันจะสนุกขนาดนี้หรอกค่ะ

Leave a Reply