Archive for April, 2013
Sat Apr.6 Brighton
เช้านี้ เรานัดกัน 8.45 ที่สถานีรถไฟ Eastbourne Station อยู่ใกล้ๆป้ายรถเมล์ในทาวน์นี่เอง ครูป้านขึ้นรถเมล์ป๊ะกับ 3 หนุ่มอีกแล้ว (แนทเค้าเดินมาหลายป้าย มาหาบูมกับไช้) หนุ่มๆบอกว่าพวกผมมาเช้าเพราะกะว่าจะไปเดินเล่นที่ Sea front ก่อน ครูไปด้วยกันไม๊ครับ เรา 4 คน ลงรถในทาวน์แล้วเดินต่อไปอีกไม่ไกลก็ถึง Sea Front ผ่านร้านดอกไม้ ร้านรวงมากมาย เจอร้านบุฟเฟ่อาหารไทยจีนด้วย ครูให้แนทถ่ายรูปร้านและเบอร์โทรไว้ เด๋วไว้โทรมาถามราคาแล้วมากินกัน ดื่มด่ำกับบรรยากาศสักพัก ก็เดินไปสถานีรถไฟกัน ระหว่างนั้นสาวๆก็โทรตามว่าพวกเราว่าอยู่ไหนกันแล้ว วันนี้วันเที่ยวทุกคนคึกคักมาก่อนเวลา 555 (ปกติหนุ่มๆนั้นตรงเวลาตลอด ส่วนสาวๆชอบมาสาย) สาวๆบ่นอุบอยากไป Sea Front กันบ้าง ไม่เป็นไร เรายังมีเวลาอีกเยอะ ไปเมื่อไหร่ก็ได้ ใกล้ๆแค่นี้เอ๊ง
วันนี้ทุกคนรู้จักประหยัดเอา Lunchbox มาด้วย มีครูคนเดวที่ไม่เอามา เพราะกะว่าไปหาอะไรร้อนๆกินที่ Brighton ยังเช้าอยู่รถไฟไม่แน่นมาก มีแดดออกด้วยค่ะ ขึ้นรถแปบเดวไช้ก็ควัก Lunchbox ขึ้นมากินซะแล้ว 555 บูมกับแนทนั่งฟังเพลงอย่างมีความสุข สาวๆก็เม๊ากันไป ชมวิวกันไป ประมาณ 30 นาที ก็ถึง Brighton เจอคุณพ่อคนนึงลงรถไฟมาเหมือนกัน แกมีสายจูงลูกชายแฝด 2 น่ารักมาก พวกเรายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในความน่ารักกันใหญ่ เราเดินมุ่งหน้าไป Brighton Pavilion กัน ระหว่างทางเราเดินผ่าน Market Street ที่เรียงรายไปด้วยร้านรวงสีสันสดใส 2 ข้างทาง ร้านที่ตั้งโต๊ะขายก็กำลังทยอยจัดร้านกันอยู่ เพราะยังเช้า เด็กๆบอกเสร็จแล้วอยากกลับมาเดินที่นี่อีกรอบ ได้เลยค่ะ จัดให้ ถึง Pavilion ซึ่งเป็นวังตากอากาศของ King George IV ทุกคนได้รับเครื่องฟังเป็นภาษาอังกฤษ เดินชมส่วนต่างๆ อย่างกระตือรือร้น สนใจและตั้งใจฟังกันดีมากๆ น่าชื่นใจ แล้วเราก็พบ Tearoom ใน Pavilion เด็กๆไม่รีรอ รีบเข้าไปหาที่นั่ง สั่งเครื่องดื่มกัน สองหนุ่มผู้ดีอังกฤษสั่งชามาดื่ม จิบไปก็ชมไปว่าหอมอร่อย ส่วนอีกหนึ่งหนุ่มสั่ง organic cola ครูก็เง็งจริงๆว่า cola มันจะ organic ได้อย่างไร หลอกกันป่าวเนี่ย อิอิ สาวๆ สั่ง hot chocolate รสชาตดีมาดื่มแก้หนาว แล้วก็นั่งเต๊ะท่าวางมาดกัน ใช้เวลาใน Tearoom นานพอควร จนครูต้องเตือนให้ไปกันเถอะ เราเดินใน Pavilion ต่อจนจบ
จากนั้นก็ไป Brighton Pier ซึ่งเป็นเหมือน Recreational Centre ของคนอังกฤษ ถึงแม้จะมีเมฆมากแต่เราก็โชคดีที่ฝนไม่ตก ไม่งั้นคงจบข่าว เพราะส่วนต่างๆเป็น outdoor เกือบทั้งหมดยกเว้นโซนตู้เกม มีร้านอาหาร ตู้เกมมากมาย และเครื่องเล่น ยิ่งสายคนยิ่งเยอะ สามหนุ่มเจ็บตัวตั้งแต่โซนตู้เกมแล้ว แล้วก็ต่อด้วยเครื่องเล่น สาวๆมุ่งตรงไปที่เครื่องเล่นทันที หนุ่มๆไปซื้อ Fish & Ship กล่องใหญ่ม๊ากมากินกัน
เป้าหมายต่อไปคือ The Lane ห้างใหญ่ใจกลาง Churchill Square เอ้า..แยกย้ายกันเดินเหมือนเดิม ถึงเวลานัดหมายมากันตรงเวลาดีมาก ดูแล้วก็ยังไม่ได้ซื้ออะไรกันมากมายค่ะ เช็คราคากันซะส่วนใหญ่ (ดีจัง!) ทุกคนมาตรงตามเวลานัดหมายดีมาก เราเดินไปที่ Market Street กันตามที่พูดไว้ คราวนี้ร้านรวงเปิดกันพรึบพรับ คนเยอะมาก คล้ายๆถนนข้าวสารบ้านเรา เราได้แวะร้านขายกีต้าร์กัน ไม่เคยเห็นร้านขายกีต้าร์ใหญ่เท่านี้มาก่อน ของเยอะมากจริงๆ
วันนี้เดินกันทั้งวันจนเมื่อยไปตามๆกัน มาถึงสถานีรถไฟ นั่งรอเค้าประกาศชานชลาสักพัก ก็เห็นประกาศเลื่อนเวลาออกไปอีก 10 นาที เป็น 17.30 วันนี้ทีมฟุตบอล Brighton มีแมชแข่งขัน คนจึงเยอะมาก (แพลนแรกตั้งใจจะกลับก่อนห้าโมง เพื่อเลี่ยงตอนแมชฟุตบอลเลิก แต่เห็นอยากอยู่ที่นี่กันนานๆก็เลยไม่เร่ง) รถไฟมาถึง เรารีบจับจองที่นั่งกัน ได้ที่นั่งดีกันทุกคน ครูบอกเด็กๆว่าวันนี้โฮสต์ครูไม่อยู่ ครูจะไปกิน Yummy Noodle Bar สาวๆสนใจอยากไปด้วย ส่วนหนุ่มๆบอกขอกลับไปกินบ้าน (ประหยัด) ครูให้สาวๆโทรขออนุญาตโฮสต์ก่อนให้เรียบร้อย ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ย้ำเล็กม๊าก แล้วก็คนเยอะม๊าก ทั้งโทรมาสั่ง Take away และนั่งทานที่ร้าน เราต้องนั่งตัวลีบๆกันเพราะความแคบของร้าน ที่นี่เป็นอาหารจานเดียว ส่วนมากเราสั่ง ต้มข่า แกงเขียวหวาน ข้าวผัด บางคนก็บอกหวาน บางคนก็บอกเผ็ด ราคาที่นี่ไม่แพงค่ะ 5.8-6 ปอด์ต่อเซ็ท จึงขายดีมาก และเป็นร้านดังมาก ถ้าเข้าร้านดีๆก็ต้องมีจานละ 15-20 แหละค่ะ แต่แหม..จะให้อร่อยเท่าเมืองไทยก็คงยาก เพราะเค้าทำขายฝรั่ง ยังงัยก็ต้องทำรสชาตฝรั่งกินเนอะ อิ่มอร่อยแล้วเราก็กลับบ้านกัน ปรากฏว่าทั้ง 6 สาว และครู บ้านอยู่ป้ายรถเมล์เดวกันหมด ต่างกันตรงที่ แต่ละบ้านต้องเดินแยกย้ายกันไปตามซอยต่างๆ ระยะเดินใกล้ไกลต่างกัน ที่ป้ายรถเมล์ก็มี Supermarket ขนาดประมาณ Lotus Express บ้านเรา แสนสะดวก นั่งรถเมล์ไป 1 ป้ายก็มี supermarket ใหญ่ Waitrose นั่งเข้าเมืองก็แค่ไม่กี่ป้าย แป๊บเดวจริงๆ ไช้กับบูมก็ป้ายรถเมล์เดวกับครูเหมือนกัน มีแนทที่เลยไป 4-5 ป้าย บูมกับแนทชอบนัดกันไปวิ่งตอนเย็น ส่วนไช้เท้าเจ็บมาจากไทยเลยยังวิ่งไม่ได้
วันนี้พวกเราสนุกสนานแฮปปี้ดี๊ด๊ากันสุดๆ
Saturday Apr.6 เที่ยวเมือง Taupo กัน
สวัสดีค่า…. ครูปัดมารายงานตัวพร้อมเรื่องราวสนุกสุดๆ ค่ะ วันนี้ตื่นเช้ามาพบกับอากาศเย็น (มาก) โฮสบ้านครูปัดเตือนให้เอาเสื้อหนาวหนาๆ ไปด้วย เพราะที่ Taupo อากาศจะเย็นกว่า Tauranga มากค่ะ แล้วสิ่งที่ครูปัดกังวลก็เป็นจริง…..เด็กใส่แค่เสื้อหนาวตัวบางๆ มาเท่านั้น ทั้งๆ ที่ย้ำกันหลายรอบมากๆ ว่าให้ใส่มาหนาๆ….. “เด็กๆ คะ วันนี้ Taupo 8-12 C. เท่านั้นนะคะ” ครูปัดบอก “ฮ๊า….. จริงหรอครู?!?!?” จริงสิค๊า…ก็อุตส่าห์ย้ำกันแล้ว แล้วโฮสบ้านต้นกล้าก็อาสากลับไปเอาเสื้อหนาวและหมวกไหมพรมมาแบ่งให้เด็กๆ ใส่ ครูหญิงก็เลยเดินกลับบ้านไปเอาเสื้อหนาวมาแจกเด็กๆ อีกห้าหกตัว เป็นไงล่ะ แค่พวกเรายืนรอรถโค้ชกันหน้าโรงเรียนยังปากสั่นกันเลย….เกือบไปแล้ว
เอ๊า…รถมาแล้ว (แม้จะมาช้านิดหน่อย ก็ยังดีกว่าไม่มา) ออกเดินทางกันเล๊ยยยยยยย….. เมือง Taupo ห่างจากที่อยู่ของพวกเราลงไปทางใต้ประมาณ 2 ชม.ค่ะ ระหว่างทางเราแวะจุดแรกกันที่ Kiwi 360 ซึ่งเป็นสวนผลไม้และสวนปลูกกีวีขนาดใหญ่ของนิวซีแลนด์ ที่นี่ผลิตกีวีฟรุ๊ตได้ถึง 80% ของกีวีทั้งประเทศเลยนะคะ ปล่อยเด็กๆ เดินช็อปของฝากกันก่อน จากนั้นครูปัดพาเด็กไปขึ้นรถ…เอ…เรียกรถอะไรดี “รถลากกีวี” ละกัน เพื่อไปชมรอบๆ สวนค่ะ คุณลุงคนขับได้อธิบายเรื่องการปลูก การเก็บเกี่ยวและการส่งออกให้พวกเราฟังด้วยนะคะ คุณลุงเห็นเด็กๆ มาเยอะแยะ เลยพูดช้าๆ ให้เด็กๆ เข้าใจได้ง่ายค่ะ ที่นี่มีระยะเวลาการเก็บลูกกีวีแค่ 10 สัปดาห์นับจากต้นเดือนเมษายนเท่านั้นนะคะ แต่จำเป็นต้องใช้แรงงานคนถึง 20,000 คนในการเก็บเกี่ยวค่ะ กันน์ถึงกับทำตาลุกวาวเห็นมาถามว่า “มารับจ้างเก็บได้มั้ยครู” “มามั้ยล่ะ” ครูปัดถาม ^^
ถ่ายรูปในสวนกีวีกันหนำใจแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางต่อไปยังที่ต่อไปนั่นก็คือตัวเมือง Taupo ค่ะ พวกเราแวะทาน lunch box กันที่สวนสาธารณะริมทะเลสาบ พอมองเห็นของเล่นในสนามก็กรี๊ดกร๊าด ดีใจกันใหญ่ จะเล่นๆ แต่พอลงจากรถเท่านั้นแหละค่ะ……..กรี๊ดดดดดดดดดดดด หนาวมากเลยครู 5555555 เพราะว่าสวนมันอยู่ริมทะเลสาบไงคะ ลมเลยพัดจัดเต็ม หนาวจนปากเขียวกันอ่ะค่ะ กันน์กะบิ๊กแอบไปกินข้าวกันอยู่ในเครื่องเล่นชนิดหนึ่ง ครูปัดเองยืนอยู่หลังต้นไม้ได้ไม่กี่นาทีก็ไม่ไหวแล้ว เลยพาเกรซ มายด์ พราว เอิร์น ทศ และแตงกวาไปนั่งกินกันที่หลังอาคารที่เป็นห้องน้ำค่ะ พอได้บังลมหน่อย แต่บรรยากาศใช้ได้ค่ะ ไม่สกปรกแถมห้องน้ำเค้าไฮโซวววใช้ได้เลยนะคะ ส่วนที่เหลือหรอคะ ขอท้าความหนาวค่ะ นั่งกินกันในสวนโล่งๆ นั่นเลย เก่งมั่กๆ *o*’ เอ…..แต่พอกินเสร็จนี่สิคะ พากันไปเล่นของเล่นซะลืมหนาวเลยค่ะ จินนี่กะเกรซไปนอนเล่นในชิงช้า ตอนแรกบอกหนาวตัวจะแข็งแล้วครู เล่นไปเล่นมาถอดเสื้อหนาวกันกองไว้อีก ขึ้นรถกันมานั่งหอบแฮ่กๆ กันทุกคน
เอ๊า….ไปต่อกันที่จุดต่อไป HukaFall ค่ะ ที่นี่เป็นธารน้ำที่ไหลมาจากบนภูเขา มีลักษณะเป็นลำธารและแก่งเห็นสลับกันไป และไหลไปจนถึงผาหินที่ไม่สูงนัก แต่น้ำใสและสีสวยสุดๆ เลยค่ะอย่างกะสระมรกตที่กระบี่แน่ะ หลายคนร่ำๆ ว่า นี่ถ้าน้ำไม่เย็นนะ คงน่าโดดลงไปไม่น้อย ถ่ายรูปกันหอมปากหอมคอแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางต่อไปยังร้านน้ำผึ้ง Huka Honey Shop ค่ะ มาร้านนี้ไม่มีใครไม่เสียตังค์ค่ะ แหม….ก็มีแต่ของน่าซื้อนี่นา ทั้งไอติมรสน้ำผึ้งที่ดูดเงินเด็กๆ ไปกันถ้วนหน้า แถมยังมีน้ำผึ้งชั้นดีรสชาติต่างๆ ให้เลือกซื้อเลือกชิมกันอีก ไหนจะเครื่องสำอางอีกค่ะ ละลานตาไปหมดเลย ที่ถูกใจที่สุดคงต้องยกให้โบกี้เค้าล่ะค่ะ เดินเปรียบเทียบราคาได้แม่นยำฉับไวมาก เห็นสอยมาหลายชิ้นเลยแหละ
และก็เดินทางต่อไปยังโปรแกรมไฮไลท์ของวันนี้กันค่ะ Hukafall Jetboat เป็นการนั่งเรือเจ็ทขนาดประมาณ 15-18 ที่นั่งที่ขับด้วยความเร็วสูงและฉวัดเฉวียนค่ะ เด็กๆ เฝ้ารอโปรแกรมนี้กันมานานหลายสัปดาห์มากๆ ครูปัดเองก็ลุ้นใจหายใจคว่ำค่ะว่าจะได้เล่นกันมั้ย เนื่องจากตลอดเส้นทางวันนี้เจอเมฆฝนเป็นระยะๆ ค่ะ แต่ฟ้าช่างเป็นใจเหลือเกิน ท้องฟ้าเปิด แดดส่องตอนที่พวกเรามาถึงที่นี่ หลังจากแต่งชุดกันเปียกและเสื้อชูชีพแล้ว พวกเราก็เตรียมตัวลงเรือค่ะ คนขับเรือชื่อสตีฟแนะนำกฎและสัญญาณมือต่างๆ ทักทายกันพอเป็นพิธีแล้วเราก็ออกไปซิ่งกันค่า……แค่เรือออกจากท่านะ สองแถวหลังที่ประกอบไปด้วยกันน์ บิ๊ก ต้นกล้า ต๊อป เอิร์ธ โบกี้ นามมี่ เกรซ มายด์และเอิร์นก็กรี๊ดเรียกน้ำย่อยกันซะหูครูปัดแทบแตกค่ะ แต่พอคนขับเค้าเอาจริงนี่….อย่าว่าแต่สองแถวหลังเลยค่ะ สองแถวหน้าอย่างไอรีน จินนี่ แตงกวา ครูปัดครูหญิงก็กรี๊ด น้องพราว แซมกะทศยังกรี๊ดเลย เพราะว่ามันส์มากกกกกกกกกกกกกกก คนขับเรือเค้าเก่งมากเลยค่ะ ขับพุ่งไปทำท่าจะชนนู่นชนนี่ แต่หลบได้พ้นตลอด เล่นเอาพวกเรากรี๊ดแล้วกรี๊ดอีก ยิ่งตอนหมุนสปิน 360 องศานะคะ สุดๆ ค่ะ เรือหมุนติ้ววววววว เกิดคลื่นน้ำกระจาย เปียกกันไปคนละนิดละหน่อยแล้วแต่ทิศทางและตำแหน่งที่นั่งค่ะ
ยังค่ะ….ยังไม่หมด คนขับพาพวกเราเข้าไปใกล้น้ำตก Hukafall ที่เราเพิ่งไปเยี่ยมชมมาเมื่อกี้ด้วย พวกเราเลยได้โบกมือทักทายนักท่องเที่ยวบนฝั่งกันใหญ่ บ้างก็ถ่ายภาพเรา บ้างกันถ่ายวีดีโอ แจ้งเกิดเลยค่ะงานนี้ ^___^ คุณสตีฟคนขับเลยจัดการแสดงให้ชุดใหญ่ พาสปินกันหลายรอบมากๆ แถมพาพวกเราเข้าใกล้น้ำตกมากๆ เช่นกัน พวกเราก็บ้าเลือดค่ะ ร้องขอ เอาอีกๆ somemore somemore พี่สตีฟก็เลยพาไปแถมอีกหลารอบมากๆ จนนับไม่ถ้วนเลย พวกเราก็กรี๊ดกันจนเสียงแหบเสียงแห้งเลยค่ะ อ้อ…..ที่ตลกมากๆ ก็คือ ทรงผมของพวกเราแต่ละคนตอนเรือแล่นเร็วๆ ค่ะ เรียกว่ากลับบ้านไปหัวเถิกกันแน่เลย5555555 สรุปว่างานนี้คนที่เปียกที่สุดคือเอิร์นค่ะ หัวยุ่งเหยิงเลยทีเดียว ยังไม่หมดนะคะ ขึ้นฝั่งไปยังมีวีดีโอของพวกเราที่เค้า record ไว้ให้ชมด้วย เล่นเอาชำก๊ากกกกกันใหญ่ ไว้เดี๋ยวครูปัดจะส่งไปให้ชมพร้อมรูปรวมละกันนะคะ
เฮ้ออออออออออออออ……หมดเวลาสนุกแล้วสิ ได้เวลาขึ้นรถกลับบ้านค่ะ เรามาถึงหน้าโรงเรียนกันตอนหกโมงยี่สิบค่ะ ล่ำลาเอิร์ธกะต๊อปกันแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ พรุ่งนี้ต่างคนต่างอยู่ทำกิจกรรมกับโฮสที่บ้านนะคะ แล้วเดี๋ยวครูปัดจะมารายงานให้ฟังค่ะ คืนนี้ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ยังรู้สึกว่าพื้นบ้านโคลงเคลงไม่หายเลย อิอิ // ครูปัด
Day 2 in Victoria
สวัสดีค่า
วันนี้กรุ๊ปเรามา orientation กันที่ Uplands ค่ะ มี Mr. Gary เป็นผู้นำกลุ่ม ก็สอนกันตั้งแต่เรื่อง Canadian Culture ว่าเค้าทำอะไรกันบ้างในแต่ละวัน ทานอาหารยังไงในแต่ละมื้อ การใช้ห้องน้ำ เก็บเตียงหลังตื่นนอน ความตรงไปตรงมาที่ชาว Canadian เค้าอยากให้เราพูดเวลาชอบหรือไม่ชอบทานอะไร (Mr. Gary แอบบอกว่า ถ้าน้องไม่บอกว่าไม่ชอบ.. 99% แน่ๆที่อาหารนั้นจะกลับมาให้เราได้ทานใหม่ เพราะฉะนั้น บอกเค้าเลยอย่างสุภาพว่าไม่ชอบทานอาหารชนิดนี้) แต่ยังไงครูยุ้ยกับครูกั๊กก็ยังอยากจะให้เด็กๆได้ลองชิมดูก่อน ก่อนที่จะบอกว่าไม่อยากทานนะคะ นี่เป็นเวลาที่ดีที่ทุกคนจะได้ลองทานอะไรใหม่ๆ ชอบไม่ชอบยังไง เราบอกเค้าได้เลยค่ะ 🙂
หลังจาก orientation ช่วงเช้า Mr. Gary ก็พาเราไป Downtown ค่ะ เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ใช้ monthly bus pass ในการเดินทาง ระบบคมนาคมโดยเฉพาะรถ bus ของที่นี่ปลอดภัยมากๆค่ะ ครูยุ้ยกับครูกั๊กขอโหวตอีก 2 เสียงให้กับความน่าอยู่ของเมืองนี้ค่ะ เมืองน่ารักมากจริงๆ คนก็น่ารัก บรรยากาศก็ดี อยากให้มาด้วยกันจัง 😀
ระหว่างอยู่บนรถ bus ก็คุยกันไปเรื่อยๆค่ะ รู้ตัวอีกที.. ถึงป้ายต้องลงละ ลงแล้วเราก็ไปทานข้าวเที่ยงกันที่ Bay Centre ค่ะ เป็นอีกสถานที่นึงที่เราจะแวะเจอกันได้หลังเลิกเรียน ก่อนกลับบ้านไปทาน dinner ที่บ้าน host ของแต่ละคน
ครูยุ้ยกับครูกั๊กอยู่กับเด็กๆตลอดนะคะ เด็กไปไหน เราไปด้วย เด็กได้มีประสบการณ์การปรับตัวอยู่กับ homestay คุณครูทั้ง 2 ท่านก็ได้มีประสบการณ์นั้นด้วยค่ะ เด็กทำกิจกรรมอะไร คุณครูก็ร่วมแจมด้วยตลอด เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง รู้สึกสดชื่นมากค่า 555 ยังไงครูยุ้ยกับครูกั๊กใส่พลังดูแลทุกคนเต็มที่นะคะ สู้ตายค่าา 😀