Archive for May, 2012
NZ Trip – One Fine Day!
วันนี้ Bunny Win กับหนุ่ม Boom มาขอรับกระเป๋าคืนที่ Intermediate School แต่เช้า น้องๆ รุมฟอกกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ไมพี่สองคนมารวมเหล่ากับน้องๆ ได้ ครูได้ทีเลยย้ำไปอีกว่าถ้ามีคดีเช่นนี้อีกลบยี่สิบคะแนน วงแตกทันทีพี่ทั้งสองเผ่นกลับ College แทบไม่ทัน !!!
จากนั้นสองหนุ่ม Pine&Nub ก็เล่าให้พวกเราฟังว่ามีวิธีทักทายแบบชาวกีวี ผ่านการฝึกสอนโดยคุณพี่โฮสต์ที่บ้าน
Nub: Sh…
Poon: ชู่ทำไม..เราไม่ได้เสียงดังซักกะหน่อย!!!
Pine: ม่ายช่ายอย่างนั้น นี่เป็นวิธีทักแบบวัยสะรุ่น ไว้ทักพวกผู้ชายด้วยกัน!!!
ทีแรกครูก็นึกว่าส่งเสียงไล่นกไล่กาที่ไหนเหมือนกัน แล้วหนุ่มน้อยก็ทดลองทักทายแบบใหม่กับเพื่อนกีวีทั้งวัน เท่าที่ดูก็คงลีลาใช้การได้ เพราะไม่เห็นใครไล่ตะเพิดกลับมานินา J
แล้วเราก็มีเรื่องอะไรขำๆ มาเล่าสู่กันฟังสลับกันไปมา
ที่ฮาสุดน่าจะเป็นสาวน้อยนักเล่าเรื่องตัวยงที่ได้ฉายาใหม่อีกคนว่า Patty-Story teller เธอจะชอบมีเรื่องราวต่างๆ มาเล่าด้วยลีลาและจังหวะที่ไม่เหมือนใคร เธอจะพูดเนิบๆ ช้าๆ แต่มีลีลาท่าทางประกอบตลอดเวลา และที่เก๋อีกอย่างคือมักจะมีลูกคู่ชาวกีวีอย่าง Gina คอยช่วยหรือแกล้งส่งเสียงประกอบให้ตลอดเวลา ผู้ฟังจะต้องตั้งสติอย่างมากและมีความอดทนในการฟังอย่างสูง..เพราะกว่าจะจบเรื่องได้จะมีทั้งขำ ฮาและเนิบช้าไปเรื่อยๆ
ช่วงนี้สังเกตได้ว่าเด็กๆ เริ่มปรับตัวกันได้ดีขึ้นมาก ส่วนใหญ่ได้เพื่อนใหม่ๆ ในห้องเพิ่มมากขึ้น เข้าใจบทเรียนในห้องมากขึ้น รู้จักครูหลายๆ คนในโรงเรียนมากขึ้น ได้เดินเรียนในหลายๆ วิชาที่น่าสนใจและหลากหลาย เช่น PE, Music, Drama, Tech ( Cooking & IT & งานไม้ ) รู้ทางหนีทีไล่ในโรงเรียนมากขึ้น และมีทักษะในการปีนป่ายดีขึ้น J
Singapore Trip : Day 2 to city tour
24.00 ก๊อก ก๊อก ก๊อก………….
หนุ่มน้อยนายหนึ่งเดินมาเคาะห้องคุณครูในกลางดึกของคืนแรก เพราะไม่ชินสถานที่ก็เลยนอนไม่หลับ
”ครูฮะ ผมนอนไม่หลับค๊าบบบบ” “เข้ามานอนที่ห้องครูก้อได้Tos มานอนด้วยกัน นอนไปก่อนละกัน เดี๋ยวก็หลับค่ะ ^^”
6.15 ฟ้ายังไม่สว่างดี แต่เด็กๆก็เริ่มตื่นนอนแล้วค่ะ วันนี้เป็นวันแรกของการเรียนที่ Lorna Whiston ค่ะ คุณครูเลยให้นักเรียนตื่นเช้าหน่อยเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและรับประทานอาหารเช้า วันนี้เรารับประทานอาหารเช้ากันที่รีสอร์ทค่ะ นักเรียนแยกกันออกเป็น 3 กลุ่ม โดยเด็กๆเลือกรับประทานอาหารเป็นอาหารจานเดียว เช่น ข้าวผัด ผัดหมี่ ชุดอาหารเช้าแบบอเมริกัน และชุดสไตล์สิงคโปร์ คือ Kaya Toast ไข่ลวกและไมโล เด็กๆทุกคนสามารถใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการซื้ออาหารได้เป็นอย่างดีค่ะ ใครที่คิดคำพูดไม่ออกก็มาถามคุณครูแล้วก็กลับไปสื่อสารเองจนได้อาหารนั้นมารับประทานค่ะ อาหารที่นี่จะจานใหญ่กว่าที่เมืองไทย เด็กๆที่ยังตัวเล็กๆหรือคนที่รู้ว่าตัวเองทานไม่มากก็จะแบ่งครึ่งทานกับเพื่อน อาหารก็ไม่เหลือมากและก็ไม่ต้องเสียเงินซื้ออาหารมากเกินกว่าที่เด็กๆต้องการ ที่เห็นในเช้านี้มีทั้งหมด 2 คู่ค่ะ
คู่ที่ 1 คือเด็กหญิงตัวเล็ก 2 คน พราวและโบว์
ส่วนคู่ที่ 2 ก็คือสองหนุ่ม พี่เจเจและน้องเฟิสท์
จากการสอบถามได้ความว่า “หนูกินน้อยค่ะ แบ่งกันกิน 2 คนดีกว่าค่ะ”
“แบ่งกันกินครับประหยัดดี เผื่อไม่ชอบจะได้ไม่เสียเงินเยอะ” แบ่งกันทาน แบ่งกันจ่ายน่ารักตามสไตล์ของแต่ละคนค่ะ
ส่วนคนอื่นๆก็มีวิธีการเลือกซื้ออาหารในแบบของตัวเอง
“ผมยังไม่รู้จะกินอะไรคับ เดี๋ยวผมชิมของพูก่อน ถ้าอร่อยเดี๋ยวผมมาซื้อกินบ้าง”
วันนี้เด็กๆ ตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะสนุกสนานกับกิจกรรมที่คุณครูที่ Lorna Whiston จัดขึ้น โดยวันแรกของการเรียนเด็กๆยังคงพบกับกิจกรรม Ice Breaking ที่จะทำให้เด็กๆได้รู้จักกันมากขึ้นและเริ่มฝึกฝนทักษะทางภาษามากขึ้น กิจกรรมที่คุณครูให้เด็กทำกันในวันนี้มีหลายกิจกรรมค่ะ มีทั้งการให้นักเรียนจับกลุ่มต่อแถวเป็นรูปตัวอักษรต่างๆ เกมส์ส่งต่อลูกบอล เด็กๆให้ความสนใจกันมากค่ะเพราะเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจทั้งนั้นค่ะ แต่กิจกรรมที่เด็กๆชอบเป็นพิเศษ คือ การฝึกพูดเร็ว โดยให้เด็กๆฝึกออกเสียงด้วยคำและวลีต่างๆ เช่น How much wood would a woodchuck chuck if a woodchuck could chuck wood ฝึกพูดจนลิ้นรัวเป็นระวิงกันเลยทีเดียวค่ะ
ในช่วงบ่ายวันนี้เป็นกิจกรรม City Tour เด็กๆฟิตและอึดกันมากค่ะเดินไกลเป็นกิโลๆ ก็ยังไหว ทัวร์ไกด์ยังชมเลย…โฮ๊ะๆ ที่ไม่ไหวก็จะมีแต่คุณครูนี่แหละค่ะ ด้วยอายุที่มากขึ้น….แทบเป็นลม!
เด็กๆได้รู้จักกับประเทศสิงคโปร์มากขึ้นทั้งประวัติความเป็นมาและความสำคัญต่างๆ ได้ถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก และความประทับใจต่างๆ ที่ได้รับจากประเทศนี้ พร้อมกับซื้อของฝากที่China Town แหมหมดกันไปหลายดอลล่าเลยค่ะ แต่คุณครูแอบเห็นน้องคนนึง เดินบ่นตลอดทางที่ China Town ว่าของแพงค่ะ ไม่มีอะไรน่าซื้อเลย และเดินมาบอกคุณครูอีกด้วยว่า “คุณครูคะถ้ามีอะไรถูกๆ กว่าที่ไทยและน่าสนใจมากจริงๆ บอกหนูด้วยนะคะ” ส่วนเพื่อนซี้ที่ชวนกันมา แหม!!! ช็อปกระจายสไตล์ Kiwi ค่ะ
กลับถึงรีสอร์ทบ่นเมื่อยตามๆกัน แต่ตอนเดินช็อปไม่บ่นเลยนะคะเด็กๆ หลังจากทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว เด็กส่วนใหญ่มีนัดกันเล่นน้ำในรีสอร์ทค่ะ เด็กหญิง 2 เด็กชาย 9 ส่วนที่เหลือของพักขากันตามอัธยาศัยค่ะ 1 หนุ่มที่ไม่ไปเล่นน้ำให้เหตุผลว่า “ผมไม่ชอบเล่นน้ำครับ เพราะผมเป็นภูมิแพ้และกลัวจะไม่สบาย” น่ารักอีกแบบนะคะหนุ่มมิว
คุณครูจึงแบ่งกันออกเป็น 2 ทีมในการดูแลเด็กๆ คุณครูผู้ชายอาสาไปเล่นน้ำกับเด็กๆ กลับมา บอกว่าสนุกมากจนไม่อยากเลิกเล่นกันเลย ส่วนคุณครูผู้หญิงก้อดูแลเด็กๆ ที่เหลือและเตรียมงานสำหรับวันพรุ่งนี้
เย็นนี้เด็กๆ หลายคนคิดถึงคุณพ่อและคุณแม่กันเยอะมาก มาขออนุญาติโทรหาคุณพ่อและคุณแม่กันหลายคน แต่มี 1 สาวที่มาพร้อมเพื่อนๆ แต่ไม่ขอโทรฯ คุณครูจึงสอบถามว่า “กานต์คะ ไม่โทรหาคุณพ่อกับคุณแม่หรอคะ?” “ไม่โทรดีกว่าค่ะ เพราะคุณแม่บอกว่าถ้าหนูโทรหาแปลว่ามีเรื่องค่ะ” แป่ววววว!!! คุณครูเลยไม่กล้าคะยั้นคะยอให้โทรหา แต่คุณแม่น้องกานต์ก้อโทรมาหาน้องกานต์นะคะ คุณพ่อคุณแม่ได้คุยกับลูกๆ สมใจกันไปหลายครอบครัวค่ะ
หลังจากที่T.Loyld พาเด็กๆไปซื้อนม กลับมาแล้วมีหนุ่มน้อยมาพบครูปูแล้วบอกว่า “ครูคับมีแปรงสีฟันมั๊ยคับ” ครูปูสงสัย “ทำไมเหรอคับโอม”….”แปรงสีฟันผมหายคับ พี่เฟิร์นบอกว่าพี่ปูมีคับ^-^!”
ส่วนสาวพลอยก็มาถามครูปูว่า “ครูคะ มีกรรไกรตัดเล็บมั๊ยคะ” มีแน่นอนค่ะครูปูคือเซเว่นอีเลเว่นเปิดตลอด24ชั่วโมง และเป็นโรบินสันที่มีทุกสิ่งให้นักเรียนเลือกสรร
พรุ่งนี้ทีมคุณครูจะมาอัพโหลดรูป และเขียน Blog ให้ใหม่นะคะ แบบว่าหมดแรงตามระเบียบค่ะ เนื่องจากมีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อย แต่จะพยายามรีบทำให้เสร็จให้ทันกับความคิดถึงของคุณพ่อและคุณแม่ที่รออ่าน Blog อยู่ค่ะ
สุดท้ายนี้…เด็กๆฝากบอกว่า
รักนะ จุ๊บๆ ^^
Canada: Our Fun Vancouver Trip!
การเดินทางมาที่ Vancouver นี้เราต้องนั่ง Ferry ข้ามฟากมาจากฝั่ง Victoria ค่ะ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ แต่ก่อนหน้าที่เราจะไปถึงที่ Ferry ที่ว่านี้เราต้องนั่ง City Bus ไปลงที่ท่าเรือก่อนค่ะ เราเปลี่ยนที่นัดหมายกันจากคำแนะนำของโรงเรียนเป็นที่หน้าห้างสรรพสินค้า Mayfair ตอนเก้าโมงเช้า แล้วก็เดินไปรอรถกันที่ป้ายรถประจำทางป้ายหนึ่งหน้า Mayfair สายที่เราจะนั่งคือสาย 70 ค่ะ นั่งไปซักพักใหญ่ๆ ใหญ่มากอยู่ค่ะ ไม่มีสายนี้ผ่านมาซักที เลยเดินไปดูที่ป้ายกัน สรุปไม่มีสาย 70 ผ่านค่ะป้ายนี้ เลยรู้ตัวว่ารอผิดป้าย ทีนี้ครูกั๊กเลยใช้ Google Map ดู พอได้จุดหมายปลายทางที่ถูกต้องแล้ว ครูกั๊กก็นำขบวนเด็กๆเดินไปรออีกป้ายหนึ่ง ที่นี้มีเขียน 70 แล้วค่ะ ถูกแน่ แถมมีฝรั่งคนหนึ่งสะพายเป้ใหญ่ๆมายืนรอรถอยู่ข้างๆ มีป้ายติดที่กระเป๋าว่า Swartz Bay ซึ่งก็คือชื่อท่าเรือฝั่ง Victoria ที่เราจะต้องไปขึ้นค่ะ รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั้ง Google Map ทั้งฝรั่งคนนั้น ใช่แล้วล่ะ ป้ายนี้แน่ ซักพักใหญ่ๆ พี่ฝรั่งที่ทำให้ครูกั๊กอุ่นใจคนนั้นก็วิ่งข้ามถนนไปขึ้นรถอีกฝั่งซะเฉยๆ เอ๊.. ไปไหนของเค้านะ ทำไมไม่รอป้ายนี้แล้วล่ะ น่าสงสาร คงจะจำรถผิด แต่เอาน่า.. เปิด Google Map อีกซักที ตอกย้ำความมั่นใจ ก็ถูกแล้วนี่นา ยืนอยู่ตรงป้ายนี้เลย เอาโชว์ให้เด็กๆดู นี่ไง.. ถูกแล้ว ทุกคนเออออไปด้วยกัน แต่น้องจีนขอเอามือถือครูกั๊กไปดู แล้วก็ขยายแผนที่ดูซะหน่อย ชัดเลยค่ะทีนี้ ฝั่งตรงข้ามจริงๆด้วยค่ะที่ต้องขึ้นรถ ไม่น่าไปสงสารพี่ฝรั่งคนนั้นเลยพวกเรา –” จากนั้นก็รอรถกันไปอีกซักพักหนึ่ง แล้วเราก็ได้ขึ้นรถ ขึ้นเรือ และเดินทางถึง Vancouver อย่างสวัสดิภาพค่ะ พลาดเรื่องป้ายไปค่ะ เด็กๆหัวเราะกันใหญ่ ขอครูกั๊กหลงหน่อยก็ไม่ได้
ขึ้นเรือเสร็จก็ช่วงเที่ยงพอดีค่ะ บนเรือก็จะมีอาหารขาย น้องๆก็สามารถเลือกซื้อได้ตามใจชอบ แต่วันนี้คิวยาวไปหน่อย เพราะผู้โดยสารเยอะ เลยทานอะไรที่ง่ายๆกันค่ะ พอถึงท่าเรือที่ Vancouver เราก็นั่งรถ coach ไป city tour แล้วก็แวะที่ตลาด Granville Island กันหน่อย ที่นี่มีร้านปลาหมึกทอดที่เลื่องชื่ออยู่ค่ะ เลื่องมาจากพี่เยี่ยมนั่นเอง เด็กๆก็ดั้นด้นเสาะหากันจนเจอ แวะทาน เสร็จแล้วก็ไปห้าง Metro Town กันต่อ ที่ Metro Town นี่เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดใน British Columbia และมีร้านค้าอยู่มากกว่า 400 ร้านเลยค่ะ เราก็เดินช็อปปิ้งกันจนถึงสามทุ่ม จากนั้นก็เดินทางกลับมาพักผ่อนเตรียมตัวสำหรับทริป Playland ในวันรุ่งขึ้นกันที่ Comfort Inn Downtown ซักพักครูกั๊กก็เปิด laptop พร้อมทำการเอารูปลงเพื่อจะอัพ blog สรุปไม่ได้ทำเลยค่ะ แวะเยี่ยมน้องๆแต่ละห้อง หายตัวลึกลับไปห้องละครึ่งชั่วโมง หลังได้กลับมา เอาล่ะ! จะเริ่มละ สรุปไม่ได้เหมือนเดิมค่ะ มีน้องๆมาเยี่ยมครูกั๊กต่อ ผลัดกันมาอีกครั้งละครึ่งชม.เห็นจะได้ สงสัยเป็นการแลกเปลี่ยนกันเยี่ยม ธรรมเนียมของเราเอง 555 แล้วช่วงห้าทุ่มกว่าๆครูกั๊กก็ได้อาหารชูกำลังเสิร์ฟตรงจากห้องพี่จีน พี่เบย์ พี่พลอยด้วยค่ะ มาม่าเส้นหมี่น้ำใส อร่อยมากๆ ขอบคุณนะคะ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง 😀
แล้วก็ถึงเช้าวันเสาร์ที่เราจะไปที่ Playland กันแล้วค่ะ ก่อนเดินทางทุกคนดูไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่พอไปถึง เห็นวางแผนกันใหญ่ว่าจะเล่นอะไรบ้าง สรุปง่ายๆ เล่นกันเกือบหมดทุกอย่างเลย มีบางอย่างที่ครูกั๊กไม่อนุญาตให้บางคนเล่นเนื่องจากอายุที่ยังไม่ควร หวาดเสียวเกินไปค่ะ ครูกั๊กรับไม่ไหว น้องไม่กลัว แต่ครูกั๊กกลัวแทนนะคะ เล่นกันจนถึงบ่ายสองเราก็เดินทางออกไปที่ Metro Town กันอีกรอบตามคำเรียกร้องของน้องๆค่ะ ครูกั๊กต้านทานไม่ไหวจริงๆ เสร็จแล้วก็กลับมาแถวๆโรงแรมหาข้าวเย็นทานกัน จบลงที่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งค่ะ นั่งโต๊ะยาวกัน 12 ที่เลย ทุกคนเลือกเมนูของตัวเองแล้วก็ถึงเวลาสั่งอาหาร เจ้าของร้านมารับ order ซักพักทำหน้าเหวอๆ มองหาผู้ช่วย เรื่องก็คือเค้าอยากให้ครูกั๊กเตือนเด็กๆว่าอาหารที่นี่จานค่อนข้างใหญ่ เค้ากลัวว่าจะทานกันไม่หมด ครูกั๊กหันไปบอกน้องๆ ทุกคนหันมาตอบว่า “หมดแน่นอนค่ะ/ครับครู” อันนี้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาครูกั๊กก็เชื่ออย่างงั้นค่ะ เชื่อมั่นในตัวเด็กๆมาก เพราะทุกคนทานกันเก่งจริงๆ ยิ่งอาหารญี่ปุ่นนี่ สู้ตายเลยค่ะ แล้วก็เป็นดังคาด หมดเกลี้ยงทุกจาน ทั้งจานหลัก จานเสริม เกลี้ยง! เสร็จแล้วเราก็จ่ายสตางค์กันแล้วก็เดินทางกลับโรงแรม เช็คความเรียบร้อย แล้วก็แยกย้ายกันเข้านอนค่ะ ก่อนนอนมี surprise อีกแล้วค่ะ ครูกั๊กได้ตุ๊กตาตัวโปรด 2 ตัวจากเรื่อง Toy Story เป็นของขวัญจากพี่ๆด้วย ขอบคุณมากๆสำหรับตุ๊กตาน่ารักสุดๆทั้ง 2 ตัวนะคะ 😀 คงเห็นว่าครูกั๊กไม่เคยมีเวลาดูของให้ตัวเองเลยเวลาพาทุกคนไป shopping อันนี้ไม่มีจริงๆค่ะเพราะไปดูเป็นเพื่อนเด็กๆมากกว่า แต่ก็มีของที่ได้ติดมือกลับมาทุกครั้งที่ไปเที่ยวนะคะ.. ขนมฝากเด็กๆค่ะ มีอย่างนึงที่อร่อยและเค้ายากรู้ว่าครูกั๊กซื้อที่ไหน จะได้ไปซื้อบ้าง ครูกั๊กไม่บอกค่ะเพราะครูกั๊กจะได้ซื้อมาเป็นของฝากได้ ฮ่าๆๆ
เช้าวันอาทิตย์เราก็เดินทางออกจากโรงแรมเพื่อไปที่ Aquarium อากาศเย็นๆค่ะวันนี้ ไปถึงเราก็เดินชมสัตว์น้ำต่างๆรอบๆสถานที่ และก็ไปชมโชว์ของปลาวาฬที่เรียกว่า Beluga ตัวขาวจั๊วะเลยค่ะ แสนรู้มากๆด้วย คราวนี้เราได้เห็นแล้วค่ะปลาวาฬ ใครว่าเรามา Canada แล้วไม่ได้เห็นปลาวาฬ ไม่จริ๊งไม่จริง แต่เป็นปลาวาฬ ณ Aquarium นะคะ ฮ่าๆ แล้วก็มี Sea Otter ที่ขยันมากๆ ฟิตมากๆค่ะตัวนี้ ว่ายน้ำกลับไปกลับมาให้น้องๆได้ดูความน่ารักกันอย่างใกล้ๆ โลมาก็มีให้ได้ชมกัน จบรายการที่ Aquarium แล้วเราก็เดินทางไป Telus World of Science กันต่อค่ะ ที่นี่ครูกั๊กว่าดีมากๆเพราะทุกอย่างเป็น interactive หมดเลย แถมมีฐานหนึ่งที่ช่วยปลูกฝังให้เด็กๆรู้จักการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าอีกด้วย น้องๆก็เล่นทุกอย่างที่เค้ามีให้เลยค่ะ เล่นไป ทำหน้าจริงจังไป หัวเราะไป ชอบจริงๆเวลาเห็นเค้าสนุกกับอะไรอย่างนี้
แล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับไปขึ้น Ferry กลับไปที่ Victoria แล้วค่ะ ระหว่างทางมีบางคนสลบเหมือดบนรถไปบ้าง คงจะเหนื่อยกันมากอาทิตย์นี้ ครูกั๊กก็เลยสบโอกาส แอบถ่ายรูปตอนหลับของน้องๆซะหน่อย โดนแบล็คเมล์ด้วยค่ะ บอกว่าถ้าเอาลง หนูก็จะเอารูปครูกั๊กลงเหมือนกัน เพราะมีช็อตนึงที่ครูกั๊กก็สลบไป ท่านอนครูกั๊กไม่ไหวด้วยค่ะ ไม่รู้ทำไมสลบไปท่านั้น แป๊บเดียวเอง แงๆ ทำกันได้ลงคอ แต่ครูกั๊กสู้ตาย! ยังไงก็ต้องลงให้ได้ค่ะ เดี๋ยวค่อยแอบไปลบรูปครูกั๊กทีหลังก็ได้ 😛
ถึง Victoria ก็นั่งรถกลับมาที่ Mayfair เพื่อมาพบกับ host family ของแต่ละคนที่มารอรับ รอบนี้ครูกั๊กพาเด็กๆขึ้นรถกลับมาแบบโปรเลยค่ะ ม้วนเดียวจบ ถึง Mayfair โดยสวัสดิภาพ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้านของแต่ละคนเพื่อพักผ่อนเตรียมตัวสำหรับการเรียนในวันรุ่งขึ้น
ครูกั๊กขออนุญาตจบรายงานลงแค่นี้ก่อนนะคะ เชิญคุณพ่อคุณแม่ชมรูปได้เลยค่ะ