Archive for the ‘CANADA’ Category
April 13 orientation & downtown walking tour
April 13 เป็นวันปฐมนิเทศ มี Teacher Gary มาแนะนำกฎระเบียบข้อห้ามต่างๆ และการใช้ชีวิตที่นี่ แล้วก็สอนการขึ้นรถเมล์ (จริงๆ) Gary พาเราขึ้นรถเมล์เข้าเมือง สอนการใช้ bus pass และแนะนำสถานที่ต่างๆ เด็กๆที่เคยไปนิวซีแลนด์ บ่นๆว่าทำไมกฎระเบียบเยอะจัง จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรหรอก เค้าก็มีกฏไว้ ซึ่งพวกเราเป็นเด็กดีไม่ทำผิดกฎอยู่แล้ว จะไปสนใจทำไม เช่น ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามกลับบ้านเกินสามทุ่มครึ่ง ห้ามพาเพื่อนต่างเพศเข้าไปในห้องนอน ห้ามไปค้างบ้านเพื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ และห้ามค้างบ้านเพื่อนต่างเพศทุกกรณี ครูป้านมีข้อสังเกตคือ เด็กที่พึ่งมาใหม่เป็นครั้งแรก จะไม่มีข้อเปรียบเทียบ และดูจะสบายๆ เด็กที่เคยไปนิวซีแลนด์มาหนึ่งครั้ง จะเปรียบเทียบค่้อนข้างมากและยังไม่เปิดใจเท่าไหร่ ส่วนคนที่ไปมาหลายครั้งได้เรียนรู้มาแล้วว่าการเปรียบเทียบเป็นสิ่งที่ทำให้ เราไม่เปิดใจยอมรับ ปรับตัว และเรียนรูสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นข้อเสียเปรียบ มาทริปนี้จึงพร้อมเปิดใจเต็มที่ เช่น แสตมป์และหลุยส์ ก็ให้กำลังใจกันไปค่ะ เชื่อว่าจะปรับตัวกันได้ในเร็ววัน
April 12 Vancouver tour & transfer to Homestay
April 12 เราไป City Tour กัน มีการปรับเปลี่ยนตารางเที่ยวนิดน่อย เพื่อหลีกเลี่ยง Capilano Suspension bridge ในช่วงเช้า เนื่องจากเป็นป่าเขา อากาศหนาวมาก เราเริ่มด้วยการ City Tour ที่ China Town, Gastown, Canada Place Pier, Stanley Park แล้วจึงไป Capilano Salmon Hatchery และ Capilano Suspension Bridge ตอนสายๆ ช่วงบ่ายต่อด้วย Grandvill Island ซึ่งเป็น Market ที่ใหญ่ที่สุดที่นี่ มีอาหารขายมากมาย เด็กส่วนใหญ่ไปถล่มร้านอาหารญี่ปุ่นกัน คนขายชมเปราะว่าเด็กเรามารยาทดี พูดขอบคุณ และช่วยเหลือกันสั่งอาหารด้วย ครูก็ปลื้มสิคะ ไม่เสียแรงที่พร่ำสอนตลอด เรื่องคำขอบคุณ
เราไปถึงท่าเรือ ferry ตอน 4 โมงเย็น จัดการ load กระเป๋าขึ้นเรือ เด็กๆเรากลุ่มใหญ่ไปยืนขวางประตูเข้าออกซึ่งทำให้คนอื่นเดินเข้าออกไม่ได้ และยังเป็นประตูอัตโนมัติ มันก็เปิดปิดอยู่นั่น เลยโดนผู้โดยสารและเจ้าหน้าทีดุเอา คนที่ไม่เกี่ยวข้องเลยพลอยโดนไปด้วย เล่นเอาหงุดหงิดกันไปพักนึง นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เราจะโดนฝรั่งตำหนิเป็นระยะ เพราะนึกอยากจะยืนตรงไหนก็ยืน ไม่สนใจว่า block ทางใครหรือเปล่า เรื่องนี้เกิดขึ้นทุกวัน ครูเตือนตลอด แต่ก็ยังแก้ไขไม่ได้ แหม พึ่งถูกชมมาแหมบๆ โดนซะแล้ว
พอได้ขึ้น Ferry ซึ่งคะน้ากับต้นกล้าเรียกเรือเฟอรารี่ เด็กๆก็ตื่นเต้นอีกรอบ เพราะเรือหรูหราใหญ่โตมาก มีห้องเล่นเกม ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก นักสำรวจไม่รอช้า เดินสำรวจกันทุกซอกทุกมุม เรือออกห้าโมงตรง ถึง Victoria หกโมงครึ่ง พอเรือเข้าใกล้เทียบท่า เด็กๆเห็นเป็นป่า โวยวายกันใหญ่ หาว่าจะมีหมีอยู่หน้าบ้านไม๊เนี่ย ทำไมมันชนบทแบบนี้ พอนั่งรถไปได้สักระยะ ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น ว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น Homestay family มารอกันพร้อมเพรียงในห้องประชุมของ Victoria School District เด็กได้พบครอบครัวและแยกย้ายกันไป
April 10 & 11 Vancouver & Whistler
เราเริ่มต้นด้วยอาหารเช้าอิ่มอร่อยที่โรงแรม ที่นี่เค้าให้เราทำวาฟเฟิลกันเอง เลยสนุกสนานกันยกใหญ่ เด็กๆบอกนมสดที่นี่อร่อยมาก กาแฟก็ถูกใจครูค่ะ ทุกคนเตรียมเครื่องกันหนาวกันครบครัน พร้อมลุย เราเคลื่อนพลกันตอนแปดโมงตรง มุ่งหน้าสู่ Whistler สวิสแลนด์แห่งทวีปอเมริกาเหนือ พอออกนอกเขตเมือง ก็เห็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้า สองข้างทางมีหิมะให้เห็นตลอดเส้นทาง เด็กๆตื่นเต้นและถ่ายรูปกันเป็นพัลวัล มีฝนตกโปรยปรายเล็กน้อยเป็นระยะ พอเข้าใกล้เขต Whistler ปรากฏว่ามีหิมะตก เท่านั้นแหละเสียงกรี๊ดและปรบมือดังสนั่นหวั่นไหวรถ แหม..เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของหลายๆคน จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงล่ะ ตอนถึง Whistler หิมะยังตกอยู่ ก็วิ่งเล่นหิมะกันสนุกสนาน เราเริ่มต้นกิจกรรมที่ Whistler ด้วยการเดินเล่นตามร้านรวงต่างๆ ไปดู Olympic Park, นั่งกระเช้า Gondola ขึ้นเขา และมีบางคน (อิน อัน บิ๋ม หลุยส์ แนนซี่) ไปเล่น Snow Tube ซึ่งให้เรานั่งบนห่วงยางและไสลด์ลงจากบนเขาหิมะ ไม่สูงชันค่ะ แต่ระยะทางยาวทีเดียว เสร็จแล้วก็มาเดินเล่นตามร้านรวงต่างๆท่ามกลางหิมะที่ตกๆหยุดๆ เป็นระยะ เราต้องกลับก่อนกำหนดการเดิม 2 ชม. เพราะทนหนาวกันไม่ไหว พอกลับมาถึงโรงแรม มีกลุ่มนึงขอพักผ่อน ได้แก่ แนนซี่ น้ำผึ้ง หลุยส์ พราว บิ๋ม ต้นกล้า ส่วนที่เหลือไปเดินช้อปปิ้งต่อที่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง Robson Street ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมแค่ 3 บลอค
ถึงแล้วค่ะ แวนคูเวอร์ ใช้เวลาเดินทางจากไทเป ประมาณเกือบ 11 ชม.
Comfort Inn Hotel Downtown Vancouver ซึ่งอยู่ห่างจาก Robson Street แค่ 3 บลอค
เก็บกระเป๋าเข้ห้องเรียบร้อย ไม่รอช้า ไป grocery store ใกล้ๆโรงแรม
ห้องนึงให้อยู่ 4 คน นะคะ ไม่ได้เยอะแบบนี้ พวกเรานอนกันมาเต็มอิ่มบนเครื่องเพราะมันเป็นเวลานอนของพวกเรา จะห้ามกันก็คงไม่ไหว พอมาถึงโรงแรมเลยไม่เหนื่อย ครูให้เข้านอนตอนห้าทุ่ม ปรากฎว่าโดนพวกนอนไม่หลับปลุกเป็นระยะ ตีสอง ตีสาม ตีสี่ พอนอนไม่หลับก็หิวล่ะสิ มาเคาะห้องครูหาของกินกันใหญ่
อาหารเช้ามื้อแรก สนุกกับการทำวาฟเฟิล
แสตมป์โฆษณษชวนเชื่อ ว่าเจ้าครีมถ้วยเล็กๆสีเขียวที่เค้ามีไว้ให้ใส่กาแฟนี่อร่อยมาก ครูป้านเลยใส่กาแฟไป 2 ถ้วย พอมาอ่านข้างๆ ถ้วย โห เป็น full cream อ้วนสุดๆ แสตมป์แอบเอามากินเล่นไปหลายถ้วย หมูตู้เอ๊ย!!!
Bagel ก็น่ากินมั่กๆ
อิ่มหนำแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางสู่ Whistler โดยมีคุณลุง Richard ใจดี (มาก) เป็นพลขับ คุณลุงช่วยเหลือแนะนำเราทุกสิ่งอย่าง และเป็นห่วงเป็นใยพวกเราน่ารักจริงๆ
ต่อจากนี้ไป เป็นการถ่ายรูปทะลุกระจกจากด้านในรถ
มี Cherry Blossom ผลิบานให้เห็นเป็นระยะทั่วเมืองแวนคูเวอร์ สวยงามมาก
Lion Gate Bridge สร้างโดยชาวอังกฤษที่เข้ามาอยู่ในแวนคูเวอร์ในยุคแรก และได้ซื้อที่ดินอีกฝั่งนึงไว้ เลยสร้างสะพานเพื่อข้ามไปที่ดินของตัวเอง ต่อมาได้ขายให้รัฐบาลเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้
แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยขุนเขา ขับรถยังไม่ทันออกนอกเมืองก็เห็นขุนขาตั้งตะหง่านอยู่ด้านหน้า เรียกเสียงฮือฮาเลยทีเดียว
ออกนอกเขตเมืองแล้วค่ะ มุ่งหน้าสู่ Whistler
คุณลุง Richard แวะให้พวกเราเข้าห้องน้ำ (ห้องน้ำที่นี่เรียก Washroom) ที่ Sqarmish Visitor Center
รถคันนี้แหละที่พาพวกเราไป Whistler
ฝนเริ่มตก
เริ่มเห็นหิมะสองข้างทาง
พอใกล้ Whistler มีหิมะตก เด็กๆตบมือและกรี๊ดกร๊าด ตื่นเต้นกันยกใหญ่ เป็นหิมะตกครั้งแรกของหลายๆคน
ถึงแล้ว Whistler เด็กๆวิ่งเล่นจับหิมะกันสนุกสนาน
หิมะหยุดตกแล้ว
เรายึด Starbuck เป็นที่หลบหนาวและเบิกเงิน
พวกเรายังงงเต้กกับเหรียญที่นี่ ซึ่งมีเหรียญ 1c, 5c, 10c, 25c, 1d, 2d แต่ไม่มี 50c
ผู้คนที่มาเล่นสกี
ร้านรวงใน Whistler
ตุ๊กตาสำหรับงาน Olympic ฤดูหนาว ที่จัดขึ้นที่ Whistler ในปี 2010
นักช้อป
เชิงเขาเป็นที่ฝึกสกีเบื้องต้น น้ำผึ้งถามว่า ครูคะ เค้าเอาน้ำแข็งมาโรยไว้หรอคะ เอ่อ..น้ำผึ้งคะ มันเป็นหิมะจริงๆ ค่ะ
พวกเก่งแล้วก็ขึ้นไปเล่นบนยอดเขาโน่น..
อาหารมื้อประวัติศาสต์ที่ไม่มีวันลืม เราหลบหนาวไปกินอาหารกลางวันที่ Old Spaghetti Factory สรุปว่าไม่อร่อยเลย เพราะพวกเราไม่ชินกับอาหาร Italian แท้ๆ เสียตังค์ แถมไม่อร่อย และไม่อิ่ม
มาเรียนการสกีกันตั้งแต่ยังเล็กๆเลย น่าเอ็นดูมาก
ขึ้นกระเช้าไปบนเขา
จับหิมะปั้นและขว้างปากัน
กลุ่มนี้ขอไปเล่น Snow Tube
ติดต่อซื้อตั๋วเล่น Snow Tube
สองคนนี้กล้าไม่พอ ขอไม่เล่น แต่ทำเนียนถ่ายรูปกับป้าย
ได้เวลากลับกันแล้วค่ะ เพราะทนหนาวไม่ไหว แย้ว….
พวกที่มีแรงล้นเหลือ ไปช้อปต่อที่ Robson Street พวกที่หมดแรงขออยู่ที่โรงแรม ครูป้านต้องกำชับว่าห้ามนอน ให้อาบน้ำ หาอะไรกิน ดูทีวี แล้วค่อยนอนตอนเวลานอน ไม่งั้นจะปรับเวลาไม่ได้สักที