Search
Advertisement
Categories

Archive for the ‘AUSTRALIA 2009’ Category

เล่าสู่กันฟัง 5 เรื่องกินล้วนๆ

สิชากับพินทำให้ครูป้านได้รู้จักบะหมี่ Koleng เป็นบะหมี่ซองนี่แหละค่ะ ของอินโด เธอภูมิใจนำเสนอมาก ว่าต้องกินแบบแห้งถึงจะอร่อย พินบอกว่าที่เมืองไทยมีขายที่วิลล่าแต่แพง คราวนี้ตอนเด็กๆส่งรายรับรายจ่าย ครูป้านเลยมีทั้ง Koleng & Mama ต้มยำให้เลือกค่ะวันจันทร์ครูป้านได้มีโอกาสไปช้อปปิ้ง  เจอ Red Globe Grapes เลยซื้อมา 3 กก. มาให้เด็กๆได้ลองทานกัน ก่อนหน้านี้ครูป้านซื้อเป็นแบบพันธ์อื่นไม่มีเมล็ดแต่ลูกเล็ก  ส่วนเจ้า Red Globe Grapes นี่ลูกใหญ่มาก แข็งปั่ก แต่มีเมล็ดค่ะ  แทนที่จะได้ความดี เด็กๆกลับบ่นว่าอันนี้มีเมล็ด ไม่ชอบ กินไปบ่นไป 3 กก. นี่ก็หมดนะคะเห็นเด็กๆ บ่นอยากทานอาหารไทย แต่ส่วนมากทำกันไม่ค่อยสำเร็จ  ครูป้านไป Woolworths เจอน้ำแกงกระป๋อง มีทั้ง แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน ต้มข่า ต้มยำ แค่ใส่เนื้อสัตว์เข้าไปต้มให้สุกก็ทานได้เลยค่ะ  เห็นว่าทำง่ายดี เลยซื้อมาฝากเด็กๆ และก็ซื้อเครื่องปรุงข้าวผัดสำเร็จรูปมาด้วย  แจกไปเรียบร้อยแล้ว  ตอนนี้เหลืออย่างเดียว คือเอาใจช่วยว่าเด็กๆจะได้ทานอาหารไทยรสชาดถูกปาก มีแต่โอม ปริน และปริม ที่ครูป้านไม่ได้ให้ไปเพราะพึงพอใจกับอาหารที่บ้านโฮสต์อยู่แล้ว  เด็กๆถามว่าครูป้านไปซื้อมาจากไหน  ครูป้านก็บอกว่า Woolworths

ครูป้านไปเจอหลอดที่เป็นรสชาดต่างๆ มีทั้ง กล้วย ชอคโกแลต สตอเบอรี่ ฯลฯ คือเราเทนมใส่แก้วแล้วใช้หลอดนี้ดูดขึ้นมา นมจะเป็นรสชาดตามหลอด  มาเล่าให้เด็กๆฟัง โอมสนใจมาก ถามว่าซื้อที่ไหนเพราะโอมกำลังอยากได้แต่ยังหาำไม่เจอ  ครูป้านบอกว่าซื้อที่ Woolworths  เย็นนั้นโอมรบเร้าให้โฮสต์พาไป Woolworths ด่วน  โฮสต์ถามว่าจะซื้ื้ออะไรก็ไม่ยอมบอก (คิดว่าคงจะอธิบายไม่ถูก) โฮสต์เข้าใจว่าเป็นเรื่องด่วนก็รีบพาไป พอเห็นโอมซื้อหลอด โฮสต์คงอยากจะเขกหัวสัก 2-3 ที โฮสต์็ถามว่าไปรู้มาจากไหน โอมบอกจากครูป้าน วันรุ่งขึ้นโฮสต์มาต่อว่าแบบติดตลกว่าครูป้านเนี่ยชอบเอาอะไรแปลกใหม่มาบอก เด็กๆ

อีกอย่างที่ครูป้านซื้อมาแบ่งเด็กๆทาน คือ Easy Mac ยี่ห้อ Craft มันมาเป็นถ้วยค่ะ เทออกใส่ถ้วยแล้วใส่ไมโครเวฟ 3 นาทีก็ทานได้ จะเป็นมะกะโรนีอันเล็กๆ มีรสไก่ กับ รสชีส ขนาดพึ่งทานอาหารกลางวันเสร็จหมาดๆ ครูป้านหยิบออกมายังมะรุมมะตุ้มกันเลย โอมกับปรินบอกโฮสต์เคยซื้อให้ทานเป็นอาหารกลางวันแล้ว  เด็กๆถามคำถามเดิมอีกแล้ว ครูป้านซื้อที่ไหน  ก้ได้คำตอบเดิมนั่นแหละค่ะ Woolworth

ตอนนี้เด็กๆหลายคนเริ่มมีข้าวมาเป็นอาหารกลางวัน  เช่น บิวตี้กับหยกผัดข้าวผัดมา น้ำผึ้งโฮสต์ทอดไข่เจียวให้ ปริมมีข้าวมาเป็นประจำอยู่แล้ว ครูป้านมีกฏว่าต้องเอามาให้ครูป้านตอนเช้า พอก่อนพักกลางวันสัก 10 นาที ครูป้านจะอุ่นอาหารเตรียมไว้ให้  หรือบางคนที่มีแซนวิชมา แต่อยากทานมาม่าเป็นอาหารเสริม ใช้กฎเดียวกันแต่เพิ่มตรงที่ต้องเอาชามมาด้วย ครูป้านก็จะทำเตรียมไว้ให้เลย  ถ้าเด็กๆเอามาให้ตอนพัก คิวในห้องพักครูจะยาวมากค่ะ ครูเยอะ  รอนาน ถ้าเอาไปให้ที่ Tuckshop อุ่นคิด 50 Cent แน่ะ (โหด)

เรื่องกินยังไม่จบ  วันนี้ครูป้านเอาแกงเขียวหวานมาแบ่งกันทาน เด็กๆเอร็ดอร่อยกันใหญ่ ขนาดคนไม่ทานเผ็ดอย่างหลุยส์กับปริม ยังอดไม่ได้

ป๊อปกับมิ๊นท์ชอบหิวระหว่างเวลาเรียน ขออนุญาตคุณครูออกมาทานอาหาร  คุณครูอนุญาตให้ทานได้เฉพาะผลไม้เพราะยังไม่ถึงเวลาพัก ของโปรดของ 2 คนนี้คือกล้วย  บางวันพอป๊อปมาถึงโรงเรียนก็ควักกล้วยออกมาทานทันที 1 ลูก บอกหิว  ป๊อปคุยโวตลอดว่าโฮสต์เป็นครูสอนทำอาหารจึงทำอาหารอร่อยมากและใจดีมาก  (แต่ทำไมป๊อปถึงหิวตลอดเวลาก็ไม่รู้)

ส่วนเอยตั้งแต่มายังไม่ประสบความสำเร็จกับข้าวไข่เจียว  ครูป้านเลยทำมาให้  เอยกินไปก็พูดว่า…ซึ้ง..ซึ้ง..ซึ้ง  ครูป้านถามว่าซึ้งอะไร  เอยบอกซึ้งที่ได้กินไข่เจียวเป็นครั้งแรกตั้งแต่มา

โปรดสังเกตเสื้อเอยให้ดีๆ  ไปสอยมาจาก Rip Curl เชียวนะ  วันรุ่งขึ้นใส่มาทันทีทั้งทีอากาศไม่ได้หนาวขนาดนั้น

ครูป้าน: เอยๆ เสื้อเบอร์ 5 เปล่า

เอย: เปล่า  เบอร์ 12

ครูป้าน: ครูป้านว่าเบอน์ 5 นะ

เอย: (เสียงสูง) เบอร์ 12 ไม่เชื่อดูสิ

ครูป้าน: ครูป้านว่า เบอร์ 5 บ้าเห่อ มากกว่า

เอย: ???!!!!?

เล่าสู่กันฟัง 4

 วันนี้ครูป้านกลับถึงบ้าน  รีบชิงใช้คอมพิเตอร์ก่อนเลยค่ะ เจ้าของบ้านกินแห้วรอไปก่อน 555หลังจากเที่ยวกันอย่างสนุกสนานเมามันที่ SeaWorld ในวันเสาร์แล้ว ก็เป็นวันหยุดพักผ่อนอีก 2 วัน  ส่วนมากโฮสต์จะพาเด็กๆไปทำกิจกรรมต่างๆ  กิจกรรมแต่ละบ้านแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตและความสะดวกของแต่ละบ้าน  แต่ก็มีบ้างที่บังเอิญไปเจอกัน  มีบางบ้านที่ตั้งใจจะไป shopping วันจันทร์  แต่ปรากฏว่าร้านค้าปิดกันซะส่วนใหญ่ อย่างเช่น เบล พอร้านค้าปิดโฮสต์ก็พาเบลไปช้อปวันอังคารหลังเลิกเรียนแทน  แล้วก็มีโมที่ไม่ได้ไปไหน ปกติโฮสต์โมจะค่อนข้างตามใจ แต่โมบอกไม่รู้จะไปไหน  แล้วโมปกติก็ไม่ใช่นักช้อป แต่เห็นวันอังคารโฮสต์ก็พาโมไปช้อป

เรามาดูกันว่าวันหยุด 2 วันที่ผ่านมา เด็กๆได้ไปไหนกับโฮสต์กันมาบ้าง

น้ำผึ้ง –  เล่นที่ Park, shopping, พายเรือแคนนูและว่ายน้ำที่บ้านต้นไทร (อยู่่ติดแม่น้ำ)

หลุยส์ – ขี่จักยานชมชายหาดที่ Caloundra, เที่ยว Curimundi Lake

โอมและปริน – เล่นโรลเลอร์เบลดที่โรลเลอร์เบลดโดม และไป King’s Beach

แพรว – เล่นโรลเลอร์เบลดที่โรลเลอร์เบลดโดม

ปริม – เล่นโรลเลอร์เบลดที่โรลเลอร์เบลดโดม

เร – เล่นโรลเลอร์เบลดที่โรลเลอร์เบลดโดม

ฟ้าและแสตมป์ – เล่นโรลเลอร์เบลดที่โรลเลอร์เบลดโดม , พายเรือแคนนูและว่ายน้ำที่บ้านต้นไทร (อยู่ติดแม่น้ำ)

ป๊อป – ไปบ้านคุณตาคุณยายของโฮสต์ที่บริสเบรน และไปนั่งเรือ

เอย – ไป Sunday Market ที่ Caloundra และไปงานวันเกิดเพื่อนโฮสต์ที่ชายทะเล

มิ๊นท์และแบมบี้ – ไป Curimundi Lake และ shopping

หยกและบิวตี้ – ไป Curimundi Lake, พายเรือแคนนูและว่ายน้ำที่บ้านต้นไทร (อยู่ติดแม่น้ำ)

ต้นไทร สิชา พิน – Sunday Market ที่ Caloundra, Ginger Factory, สวนสนุก Aussie World, Shopping

ถ้าสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่ามีเด็ก 3 คนไปเล่นที่บ้านต้นไทร แต่ต้นไทรไม่อยู่บ้านหรอกค่ะ บ้านต้นไทรเป็นบ้านนักกีฬา ส่วนมากใช้เวลาไปกับการแข่งขันกีฬา พอวันหยุดก็ไม่ค่อยไปไหนค่ะเพราะบ้านเค้าสวยมากอยู่ติดแม่น้ำและมีสระว่ายน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้เยอะ ต้นไทรบ่นอยากเที่ยวบ้าง  ใครจะมาบ้านต้นไทรก็ไม่สน ขอไปเที่ยวก่อนนะ  ครูป้านเลยไปรับมา ส่วนสิชากับพินอยู่กับครูป้าน 3-4 วันอยู่แล้ว (นี่แหละคือเหตุผลที่ครูป้านหายไปหลายวัน คือมีแขกตัวเล็กๆมาบ้านน่ะค่ะ ไม่อยากนั่งทำงานหน้าคอมตลอดเวลา)  เนื่องจากโฮสต์มีเรื่องฉุกเฉินต้องไปต่างเมือง (ตอนนี้กลับไปอยู่บ้านโฮสต์ตัวเองเรียบร้อยแล้วค่ะ) ครูป้านเลยได้พาเด็ก 3 คน ไปเที่ยว รถเต็มพอดี 5 คน

3 รูปบนสุดเป็นรูปบรรยากาศบ้านต้นไทร เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายวิวแม่น้ำ่้ำมาให้ดู  ส่วนรูปอื่นถ่ายที่หมู่บ้านของวิกกี้โฮสต์ครูป้านเองค่ะ

เล่าสู่กันฟัง 3

วันพฤหัสฯ 11:00 ทางกระทรวงศึกษาธิการของรัฐควีนส์แลนด์มารับครูป้านไปดูโรงเรียน 2-3 แห่ง ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ ส่วนพี่ปุ่นพาไอฟ้าไปหาหมอเนื่องจากมีตุ่มเล็กๆขึ้นในเปลือกตาและปวดนิด หน่อย  คลีนิกอยู่ใกล้ๆโรงเรียนนี่แหละค่ะ  นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่พาเด็กไปหาหมอ  คนแรกคือต้นไทรที่เป็นหวัดมาจากเมืองไทย  หมอคิดค่าตรวจ 56 AUD เท่ากันทั้ง 2 ครั้ง น่าจะเป็นราคามาตรฐาน หมอออกใบสั่งยาให้ต้องนำใบสั่งไปซื้อที่ร้านขายยาที่โรงเรียนเวลาเด็กปวดศรีษะ เค้าจะใช้น้ำแข็งประคบที่ศรีษะ ไม่ให้ทานยาแก้ปวด โรงเรียนไม่มีสิทธิให้ยาเด็กแม้กระทั่งยาแก้ปวดค่ะ

เรย์ที่ขาแว่นหักตอนนี้ได้ขาแว่นใหม่เรียบร้อยแล้ว เด็กๆถามราคาค่าขาแว่น ครูป้านบอก 130 ดอลล่า เรย์แย้งทันทีว่า 131 ดอลล่า  ขอโทษเรย์..ครูป้านผิดไปแล้ว

มีเรื่องขำๆ มาเล่าให้ฟัง วันนึงปริมบอกครูป้านว่าอยากซื้อลิปสติกที่เป็นสเก็ตบอร์ด แต่ของหมด ที่ร้านบอกว่าอีก 2-3 วันของถึงจะมา  2 วันถัดมา ปริมโทรหาครูป้านที่บ้าน

  • ปริม: หนูไปที่ร้านมาอีกที แต่ของยังไม่มาเลย
  • ครูป้าน: อันเท่าไหร่น่ะปริม
  • ปริม: 150 ค่ะ
  • ครูป้าน: 150 บาท เหรอ
  • ปริม: 150 ดอลล่าค่ะ
  • ครูป้าน: ฮ้า!! ทำไมแพงจัง แล้วปริมจะเอาไปให้ใครใช้
  • ปริม: หนูใช้เอง
  • ครูป้าน: ปริมเนี่ยนะใช้ลิปสติกราคา 150 ดอลล่า
  • ปริม: (เสียงเข้ม) ครูป้าน…มันคือ Rip Stick เป็นสเก็ตบอร์ดชนิดใหม่
  • ครูป้าน: !!???

วันศุกร์น้ำผึ้งมีลูกอมมาเยอะแยะตามเคย โฮสต์น้ำผึ้งทำงานอยู่บริษัทผลิตขนมพวกนี้ และจะให้น้ำผึ้งนำมาสัปดาห์ละครั้ง ให้มาเยอะค่ะ น้ำผึ้งก็จะใจดีนำมาแบ่งเพื่อนๆ ทุกครั้ง

  • น้ำผึ้ง: ใครอยากกินขนมของเรามั่ง หยิบเลย
  • เพื่อน: อ้าปากค้าง….เพราะยังไม่ทันตอบ น้ำผึ้งก็เก็บขนมซะแล้ว 555
  • ครูป้าน: น้ำผึ้ง!มันเร็วไปเปล่า เพื่อนยังไม่ทันหยิบเลย
  • น้ำผึ้ง: แหะๆ เห็นไม่มีใครตอบ นึกว่าไม่เอา

วันนี้คลาสภาษาอังกฤษ Mrs. Wood สอนเรื่อง Map ให้เด็กๆหัดอ่านแผนที่และสัญลักษณ์ต่างๆ เริ่มจาก Homestay ของตนเอง ไปจนถึงเมืองหลวงของรัฐต่างๆ ทะเลรอบๆออสเตรเลีย

10:40 ที่โรงเรียนมีการซ้อม Lock Down เมื่อได้ยินเสียง Alarm เด็กทุกคนต้องหมอบลงพื้นหรือมุดใต้โต๊ะ  ล็อคประตูหน้าต่าง  จากนั้นคุณครูประจำวิชาทำการเช็คชื่อเด็กว่าทุคนอยู่่ครบปลอดภัยดี ต่อมามีเจ้าหน้าที่โรงเรียนมาตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง   Lock Down เป็นการซ้อมหลบภัยในกรณีเกิดเหตุการณ์ร้าย เช่น ผู้ก่อการร้าย หรือมีบุคคลเข้ามาทำอันตรายในโรงเรียน  เด็กไทยส่วนมากไม่รู้จัก Lock Down บางคนบอกที่โรงเรียนเคยมีการซ้อมหนีไฟ บางคนบอกไม่มีทั้ง 2 อย่าง ตามโรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยจะมีการซ้อมแบบนี้เหมือนกันค่ะ  เด็กๆมีคำถามมากมายเกี่ยวกับ Lock Downแล้วก็สนุกสนานกับการจินตนาการเหตุการณืไปต่างๆนานา

  • Bambi:ที่โรงเีรียนหนูเคยมีเสียงปัง ปัง ปัง…..ที่จริงมันคือเสียงคนกำลังก่อสร้างค่ะ
  • Bambi:ที่โรงเีรียนหนูเคยมีกลิ่นไหม้…..ที่จริงมันเป็นกลิ่นไก่ย่างค่ะ
  • Bambi:ที่โรงเีรียนหนูเคยมีเลือดแดงๆที่พื้น…..ที่จริงมันคือซอสมะเขือเทศไว้กินกับไก่ย่างค่ะ

เด็กหลายคนบ่นอยากทานข้าว บางคนยังไม่กล้าบอกโฮสต์  บางคนบอกแต่ได้ทานนิดเดียว  โฮสต์บ้านที่ไม่เคยทานอาหารเอเชี่ยนเลยจะนึกภาพไม่ออกว่าเราทานกันแค่ไหนและ อย่างไร ป้านก็สอนให้เด็กบอกรายละเอียดเค้ามากกว่านี้  บางคนอยากทานไข่เจียว ได้ไข่ดาว  บางคนได้ไข่เจียวแต่เพี๊ยนหน่อย

ที่หายไปหลายวันเพราะมีแขกมาบ้านค่ะ  ครูป้านเลยไม่อยากนั่งอยู่่หน้าคอมตลอดเวลา เพราะเกรงใจ

ที่เห็นรูปสะพานอยู่รูปนึง เป็นทางข้ามจากประถมไปฝั่งมัธยมค่ะ

คืนวันศุกร์ที่โรงเรียนประถมมี Disco Night ตั้งแต่ 5:30 – 8:30 pm ถ้าซื้อบัตรก่อนวันงานราคา 7 AUD แต่ถ้าซื้อวันงานราคา 8 AUD ค่ะ มีการจับรางวัล Ripstik 1 รางวัล ด้วย เด็กเราส่วนมากไม่รู้ว่า  Disco Night คืออะไร  ครูป้านก็อธิบายให้ฟัง  และบอกเด็กๆว่าถ้าอยากมาร่วมงานให้บอกกับโฮสต์ บางคนก็อยากมา บางคนก็ไม่อยากมา  คนที่ไม่อยากมาก็มีเหตุผลต่างๆนาๆ เช่น เอยเจ็บเท้าเนื่องจากโชว์ผลงานฟุตบอลมากไปหน่อย  แบมบี้ไม่ชอบเสียงดัง มิ้นตอนแรกบอกไม่อยากมาแต่เปลี่ยนใจนาทีสุดท้ายโฮสต์จึงไม่สามารถจัดการให้ ได้  บิวตี้กับหยกอยากไปซื้อเกม ต้นไทร ป๊อบ เร ไม่อยากเต้น  สรุปแล้วมีเด็กมา 12 คน

ได้เวลา เด็กๆก็เริ่มทยอยกันมา กลุ่ม Godmother มาครบ  โมมาถึงถามว่าไม่เห็นบัดดี้โมมาเลย  อ้าวโม!!ก็นี่มันงานเด็กประถม  บัดดี้หนูอยู่มัธยมจะมาได้ไงล่ะคะ

เมื่อเข้ามาในงานเด็กๆสามารถรับ Sausage Sizzle กับเครื่องดื่มได้ 1 กระป๋อง โรงเรียนให้เด็กประถมทุกระดับมาร่วมงานได้ แต่เด็กตั้ั้งแต่ Year 2 ลงมาต้องมีผู้ปกครองมาดูแล  มีผู้ปกครองอาสาหลายคนรวมทั้งผู้ช่วยครูใหญ่มาช่วยกันที่ Tuckshop เพราะค่อนข้างยุ่งต้องแจก Sausage Sizzle และเครื่องดื่ม และต้องขายของด้วยชั่วโมงแรกเด็กไทยไม่มีใครกล้าเต้นเลยค่ะยืนนิ่งเป็น อนุสาวรีย์  ผ่านไป 1 ชั่วโมง ครูป้านเข็น หลุยส์ น้ำผึ้ง เบล พิน ออกไปเต้นสำเร็จ  จากนั้น Godmother นำโดยปริมมาบอกครูป้านว่า อยากเต้นแต่ไม่มีใครนำ  ครูป้านบอกนู่นเพื่อนๆออกไปเต้นอยู่โน่นแล้ว  นั่นคือตจุดเริ่มต้นของความมันส์  ครูป้านจำไม่ได้ว่าปริน โอม และโม เริ่มเต้นกันตอนไหน

ครูใหญ่ (ที่ผมซอยสั้นใส่ชุดดำ) ก็มาเต้นกับเด็กๆอย่างสนุกสนาน  กลุ่ม Godmother ของเราเต้นกันแบบหลุดโลกจริง  ส่วนเด็กๆคนอื่นๆก็ไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่ ไม่เว้นแม้แต่ โม โอม หรือ ปริน  ตอนที่โมขอโฮสต์ว่าจะมางานนี้  โฮสต์พูดว่า You not gonna dance Mo!!  ตอนที่เต้นอยู่ โม..พูดว่าปกติหนูเป็นเด็กเรียนนะคะ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย

มีอยู่รูปนึง Mrs. Duffy รองครูใหญ่ ชู Ripstik ขึ้นมา ตอนนั้นเป็นการจับสลากรางวัลค่ะ ลุ้นกันน่าดู  นี่หละค่ะหน้าตาเจ้า Ripstik

ทั้งครูใหญ่และวิ๊กกี้เห็นเด็กเราหลุดโลก  ยืนมองด้วยความงงงวยเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง (อย่าว่าแต่คนอื่นเลยค่ะ ครูป้านยังไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง) พอเริ่มชั่วโมงที่ 3 เด็กฝรั่งเริ่มหมดแรงแล้ว แต่เด็กเรากำลังฮึกเหิมเพราะเริ่มทีหลังเค้า  งานเลิก..กลุ่ม Godmother เหงื่อท่วมเสื้อเปียก  ครูป้านก็ดีใจที่เด็กๆได้สนุกสนาน ปลดปล่อยความเครียด ความคิดถึงบ้าน แต่ก็คิดถึงเด็กๆที่ไม่ได้มา  อยากให้ทุกคนมาสนุกด้วยกัน  เด็กๆเองก็คงไม่ได้คาดคิดว่ามันจะสนุกขนาดนี้หรอกค่ะ