Archive for the ‘AUSTRALIA 2009’ Category
Movie World
มาแล้วค่ะ Warner Bros. Movie World, Hollywood on the Gold Coast เราออกเดินทาง 8 โมงเช้า วันนี้ครูป้านมัวแต่ห่วงเตรียมของกินให้เด็กๆ เลยลืมของสำคัญคือกล้องถ่ายรูป กะว่าจะไปยืมเด็กๆสักคน พอดีวิกกี้มีกล้องเล็กอยู่ในรถ ครูป้านเลยยืมมาก่อน (รอดตัวไป) คราวที่แล้วขากลับจาก SeaWorld เด็กๆหิวกันมาก snack ที่ครูป้านเตรียมมาไม่พอ คราวนี้ครูป้านเลยเตรียม snack มาเยอะค่ะ
พอมาถึง คราวนี้เด็กๆเหมือนจะรู้ใจกันโดยอัตโนมัติ เค้าเลือกจับกลุ่มไปกับเพื่อนที่เล่นแบบเดียวกัน กลุ่มที่ 1 ไปกับครูป้านจะเป็นพวกไม่ผาดโผนนักมี บิวตี้ หยก พิน เบล แบมบี้ หลุยส์ น้ำผึ้ง และคนสุดท้าย ทายซิใคร่เอ่ย…..ต้นไทรนั่นเอง กลุ่มที่ 2 คือ godmother ที่มีสมาชิกเพิ่มอีก 1 คือ เร ส่วนกลุ่มที่ 3 มี ป๊อป ปริน โอม เอย มิ๊นท์ โม ทีแรกแบมบี้อยากจะไปกับกลุ่มนี้์แต่ครูป้านห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะยังเล็กอยู่เลยหนีบมาด้วย แบมบี้ก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร กลุ่มที่ 3 นี่ไปเล่นพวก Thrill Rides ที่อยู่ด้านหน้ากันไม่เว้นแม่แต่โม กล้าหาญกันจริงจิ๊ง
กลุ่มครูป้านกับกลุ่ม godmother ได้ดูหนัง 4 D เรื่อง Shrek พร้อมกัน สนุกมากค่ะ หลังจากนั้นก็ต่างแยกย้ายกันไป กลุ่มครูป้านมาเจอกลุ่มที่ 3 ตอนทานอาหารกลางวันแป๊บนึง ครูป้านดูตารางการแสดงแล้วก็ชวนสมาชิกในกลุ่มไปดู Hollywood Stunt Driver ทีแรกเด็กๆบอกไม่อยากดูห่วงเล่นเครื่องเล่นกัน ครูป้านก็เชียร์ให้ไปดู อธิบายให้ฟังว่ามันเหมืือนการถ่ายทำภาพยนต์ Hollywood สนุกมาก เด็กก็โอเคไปดูกัน เราดูรอบบ่ายโมงได้เจอกับกลุ่ม godmother อีกครั้ง การแสดงสนุกตื่นเต้นสุดที่จะบรรยายจริงๆค่ะ การแสดงจบแล้วเด็กๆยังตื่นเต้นกันอยู่เลย
กลุ่มครูป้านปลื้มเจ้าเครื่องเล่น Road Runner Roller Coaster กันเป็นพิเศษ เล่นไม่ต่ำกว่า 5 รอบ ครูป้านเห็นเด็กๆเล่น นึกอยากเล่นบ้างและเห็นว่ามันไม่น่าจะหวาดเสียวมาก เลยอยากจะลองไปเล่นบ้าง แบมบี้บอกถ้าครูป้านเล่นแล้วใครจะเฝ้าของล่ะค่ะ (แอบคิดว่าแบมบี้จายร้ายเนอะ..แต่ก็จริงอย่างที่แบมบี้ว่า) พินทนแรงเชียร์ไม่ไหวร่วมหัวจมท้ายขึ้นไปกับเค้าด้วย ลงมาน้ำตาคลอ..เข็ดไปเลย ครูป้านได้โอกาสเลยให้พินช่วยดูกระเป๋าให้และไปลองเล่นบ้าง ลงมานั่งดมยาดมอยู่พักนึงค่ะ (แบมบี้คงนึกสมน้ำหน้า..อิอิ)
เจ้า Scooby Doo Spooky Coaster นี่เด็กๆก็บอกว่ามันสุดๆ หลุยส์กับพินที่ไม่อยากเล่น ครูป้านให้ไปดูการแสดง Batman ซึ่ง 2 คนนี้ก็ชอบมาก
ส่วนเจ้าเครื่องเล่นที่ชื่อลงท้ายว่า Waterfall (จำชื่อไม่ได้) นี่สูงจนน่าหวาดเสียว เหลือบิวตี้ที่ไม่ยอมไปเล่น ครูป้านถามบิวตี้ว่ากลัวความสูงหรือกลัวเปียก บิวตี้บอกกลัวเปียก ครูป้านเลยบอกถ้ากลัวความสูงน่ะครูป้านไม่ว่า แต่กลัวเปียกแค่นิดหน่อยนี่มันไม่สมเหตุสมผล เสียเงินมาถึงนี่แล้ว มากลัวเปียกเนี่ยนะ บิวตี้เลยบอกเอ้าเปียกก็เปียกเป็นไงเป็นกัน ตามเพื่อนไปทันพอดีได้ขึ้นลำเดียวกัน และก็ไม่ผิดหวังเพราะสนุกมาก
ฟ้ามาถามครูป้านว่ากลุ่มครูป้านได้เล่นเจ้า Waterfall หรือเปล่า ครูป้านบอกได้เล่น ฟ้าบ่นใหญ่ว่าอยากเล่นแต่ในกลุ่มไม่มีใครเล่น
กิจกรรมสุดท้ายของวันนี้ ทุกคนแวะร้านของที่ระลึก (ตุ๊กตาน่ารักมากก) แล้วก็ชมขบวนพาเรดของเจ้าตัวการ์ตูน Warner Bros. กันตอนบ่ายสามโมงครึ่ง ออกเิดินทางกลับประมาณ 4 โมงเย็น ถึงโรงเรียนเกือบหกโมงเย็น จากนั้นโฮสต์ก็มารับแยกย้ายกันกลับค่ะ
วิกกี้บอกวันนี้เหนื่อยไม่อยากทำกับข้าว เราไปหาอะไรกินนอกบ้านกันเถอะ วิกกี้พาครูป้านไปร้านอาหารไทยที่ชายหาด Mooloolaba ซึ่งวิกกี้บอกว่าอร่อยมาก (แต่ครูป้านว่างั้นๆแหละ) Mooloolaba อยู่ไม่ไกลจาก Kawana ค่ะ ชายหาดสวยดี มีร้านค้ามากมาย เวลาไปเจออะไรดีๆ ก็อดคิดถึงเด็กๆไม่ได้ค่ะ
วันอังคารนี้ที่โรงเรียนมี National Examination ซึ่งเด็กเราคงไม่ได้สอบกับเค้าด้วย ครูป้านเลยชวนวิกกี้ว่าจะพาเด็กๆขึ้นรถเมล์ไปเที่ยวMooloolaba กัน เด็กๆตื่นเต้นกันใหญ่ ครูป้านถือโอกาสขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่นอกโปรแกรมนิดนึงนะคะ ถือว่าให้รางวัลเด็กๆแล้วกันค่ะ เด็กๆทุกคนน่ารักมากค่ะ (ถึงแม้จะชอบว่าครูป้านแก่ก็ตาม)
ส่วนวันพุธ โรงเรียนเชิญให้เราไปพูดเกี่ยวกับเมืองไทยที่ International Club ของโรงเรียนตอน 11 โมง ช่วงเช้าครูป้านเลยจะให้เด็กๆเตรียมตัวกัน เสร็จแล้วตอนเที่ยงครูป้านแจ้งครูใหญ่ไว้ว่าจะขอถ่ายรูปหมู่แต่ละห้องเรียนค่ะ บ่ายเรียนตามปกติ
วันพฤหัสฯบ่ายมีพิธีมอบประกาศนียบัตรและงานเลี้ยงอำลา
วันศุกร์ออกเดินทาง 9 โมงเช้า มุ่งหน้าเข้า Brisbane เริ่มต้นที่การชมวิวที่ Mt. Cootha, Queensland Museum, Southbank, Queen Street Mall, Night Market และเดินทางถึงสนามบินประมาณ 2 ทุ่มครึ่งค่ะ
ครูป้านลืมแจ้งไปว่าพี่ปุ่นกลับไปก่อนแล้วค่ะ พี่ปุ่นอยู่กับเรา 2 สัปดาห์เต็ม ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วก็กลับไป วันสุดท้ายมีเด็ก 3 คนที่ผู้ปกครองมารับที่บริสเบรน คือ ฟ้า เร และปริม ค่ะ
เหตุเกิดจาก Ripstik
วันนี้ครูป้านขอข้ามเรื่องราวของ Movie World ไปก่อนนะคะ เนื่องจากมีเรื่องตื่นเต้น วันนี้เรามีนัดกันที่ Botanic Garden ตอน 9 โมงเช้า แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันแม่ หลายๆบ้านมีกิจกรรมวันแม่ เช่น มีคุณยายมาที่บ้านและทานอาหารกัน บางบ้านคุณแม่บอกวันนี้จะไม่ทำอะไรเลยจะให้ลูกๆบริการรับใช้แม่ทุกอย่าง หรือบางบ้านเดินทางไปหาคุณยาย ซึ่งครูป้านได้บอกเด็กๆทุกคนว่าถ้าที่บ้านใครมีกิจกรรมวันแม่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมา Botanic Garden เพราะจริงๆแล้วมันก็แค่ครึ่งวันเอง ครูป้านอยากให้เด็กๆปฏิบัติตัวเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเค้า วันนี้จึงมีเด็กๆมาทั้งหมด 11 คน คือ ต้นไทร เอย หลุยส์ หยก บิวตี้ ปริม แพรว แสตมป์ ฟ้า เบล โม
ต้นไทรกับเอยนั้นโฮสต์พามาส่งที่บ้านครูป้านเนื่องจากบ้านครูป้านอยู่ใกล้ Botanic Garden และโฮสต์ไปทำธุระอย่างอื่น หลุยส์ หยก บิวตี้ มากับ Host mother ของหยกกับบิวตี้ ส่วนปริม แพรว แสตมป์ ฟ้า มาด้วยกัน เบลโฮสต์พากันมาทั้งครอบครัว โมโฮสต์ก็มากันทั้งครอบครัวเช่นกัน
เอยนำลูกฟุตบอลมาด้วย ส่วนต้นไทรนำลูกรักบี้มา เด็กๆเริ่มเล่นโยนลูกรักบี้กันก่อน ต่อด้วยการเล่นลิงชิงบอล จากนั้นโฮสต์ของเบลนำ Ripstik 2 อัน นำมาให้เด็กๆเราลองเล่นกัน คนที่ลองเล่นคือ ปริม ต้นไทร แพรว เอย แสตมป์ ส่วนคนที่ไม่ได้เล่นก็เป็นกองเชียร์บ้าง ไปเล่นอย่างอื่นกันบ้าง สักพักก็ได้เวลาทานอาหารกลางวัน หลังจากนั้นครูป้านชวนเด็กๆไปเดินเล่นในป่ากัน พอกลับออกมาเด็กๆก็มาเล่น Ripstik กันต่อ เด็กๆที่มีความมุ่งมั่นในการเล่นนั้นคือคนที่ซื้อ Ripstik มาแล้วและคนที่กำลังจะซื้อ
เหตุเกิดจาก Ripstik
ครูป้านเตือนแล้วเตือนอีกว่าให้เล่นด้วยความระมัดระวัง ปริมล้มเป็นคนแรก ก็ถลอกปอกเิปิกไปพอสมควรค่ะ คนต่อมาคือเอย (ซึ่งกำลังอยากจะซื้อ) เอยล้มไปแล้วครั้งนึง เอามือขวาลง ครูป้านบอกไม่ให้เล่นแล้ว ด้วยความค้างคาใจเอยอยากลองอีกที คราวนี้ล้มเหมือนเดิมและเอามือขวาลงเหมือนเดิมเช่นกัน เที่ยงเศษๆเราก็ต่างกลับบ้านกัน
เอยกับต้นไทรต้องไปอยู่กับครูป้านถึงเย็นเพราะโฮสต์มีธุระ เอยบ่นเจ็บแต่ยังขยับมือได้และยกแขนได้ วิกกี้พาพวกเราแวะ Woolworths ครูป้านเลยได้โอกาสพา 2 คนนี้ไปซื้อเจ้าหลอดยอดนิยม เอยซื้อมาฝากเบลด้วยเพราะรู้ว่าเบลอยากได้เหมือนกัน
พอถึงบ้านวิกกี้ วิกกี้นำยามาพ่นให้เอยและพันผ้าไว้ เด็กๆ 2 คนทานอาหารกัน (ไม่รู้มื้อไหน) ครูป้านสังเกตดูตอนเอยทานอาหาร เอยหนีบแขนข้างที่เจ็บไว้แนบตัว ซึ่งวิกกี้บอกว่าอาการเหมือนลูกชายของวิกกี้ตอนที่เล่นเสก็ตบอร์ดแล้วล้ม แล้วมาทั้งทานอาหารทำท่าหนีบๆแขนไว้แบบนี้ สุดท้ายลูกวิกกี้ต้องไปโรงพยาบาลและเข้าเฝือก จากนั้นเอยก็มานั่งเล่น hi5 ที่เครื่องคอมของวิกกี้ ส่วนต้นไทรเล่นเกมที่เครื่องคอมครูป้าน ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ลองแกะผ้าที่พันไว้ดู เอยยังปวดเหมือนเดิมและบวมขึ้นมานิดหน่อย ครูป้านกับวิกกี้เลยตัดสินใจพาไปหาหมอ วันนี้เป็นวันอาทิตย์คลีนิคปิด จึงต้องไปโรงพยาบาล พอดีว่าโฮสต์ต้นไทรกลับมาบ้านแล้ว เราจึงไปส่งต้นไทรที่บ้านก่อน แล้วก็พาเอยไปหาหมอที่ Caloundra Hospital
ไปถึงโรงพยาบาลตอนเกือบ 4 โมงเย็น ตรงไปที่แผนกฉุกเฉิน ลงทะเบียนเสร็จ นั่งรอ 1 ชั่วโมงจึงได้ X-ray และรอพบหมออีกเกือบชั่วโมง เนื่องจากคนไข้เยอะพอสมควร ระหว่างรอ เอยคุยเจื้อยแจ้วไม่หยุด เล่านู่นเล่านี่ตลอดเวลา แถมสั่งให้ครูป้านถ่ายรูปอยู่เรื่อยๆ ทำให้ครูป้านใจชื้นว่าเอยไม่เป็นอะไรมาก ถ้าเอยเจ็บมากครูป้านก็คงหัวใจสลายเหมือนกัน พนักงานที่โรงพยาบาลพูดจาดีมาก ให้การต้อนรับอบอุ่นทุกคน เจ้าหน้าที่ x-ray (เสื้อสีชมพู) มาคุยกับพวกเราอยู่นาน เล่าว่าเคยไปเมืองไทยมา ชอบเมืองไทยมาก เค้าแซวเอยว่าใช้บริการของรัฐบาลออสเตรเลียครบทุกอย่างทั้ง Education และ Health Care และให้กำลังใจเอยว่าเป็นเด็กที่กล้าหาญมาก
เมื่อได้พบหมอ หมอแนะนำตัวเองสัมผัสมือกับพวกเราทุกคน (ระหว่างนั้นครูป้านขออนุญาตคุณหมอถ่ายรูป) คุณหมอบอกว่ากระดูกที่หลังมือแตก ต้องเข้าเฝือกเพื่อไม่ให้กระดูกมันแตกต่อไปเรื่อยๆ และเพื่อให้กระดูกประสานกันได้ดี ครูป้านกับเอยตกใจพอสมควรไม่คิดว่าถึงขนาดต้องเข้าเฝือก คุณหมออธิบายว่าตอนนี้ต้องใช้แบบ Half plaster ไป 1 สัปดาห์ เพื่อให้เลือดหมุนเวียนได้ตามปกติ หลังจากนั้นต้องเปลี่ยนเป็น Full plaster (ซึ่งก็กลับเมืองไทยพอดี) คุณหมอให้ฟิล์ม x-ray มาด้วย เพื่อที่เอยจะได้นำกลับมารักษาต่อที่เมืองไทยได้ เข้าเฝือกเสร็จก็เกือบ 1 ทุ่ม วิกกี้บอกกับครูป้านว่า I can read your mind. You want him to stay overnight with you tonight, aren’t you! ครูป้านต้องขอบคุณวิกกี้จริงๆที่เข้าใจ เรามุ่งตรงไปที่บ้านเอย ซึ่งไม่ไกลจากโรงพยาบาล ไปเอาเสื้อผ้า ตอนนั้นโฮสต์เอยยังไม่กลับมา มีแต่ลูกสาวคนโตอยู่บ้าน พอเรากลับถึงบ้านของวิกกี้โฮสต์เอยก็โทรมาถามข่าวคราวด้วยความห่วงใย ครูป้านลงมือทำกับข้าวเองเพราะเกรงใจวิกกี้ที่เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เอยคงหิวมากเพราะ 2 ทุ่มกว่าแล้วทานเยอะมาก ครูป้านเอยทานยาแก้ปวด 1 เม็ด ตอนนี้เอยหลับไปแล้ว ครูป้านจึงได้มาเขียน Blog ค่ะ ก่อนนอนเอยออกตัวว่านอนไม่ดิ้น (โชคดีไป) แบมบี้กับสิชานอนดิ้นมากค่ะ (ขอบอก)
ครูป้านเชื่อว่า พวกเราทุกคนจะเป็นกำลังใจให้เอยหายเร็วๆ นะคะ
รวมภาพประจำสัปดาห์
ขอเริ่มต้นด้วยการเผาใครบางคน
ครูป้าน: ไม่ได้สระผมมากี่วันแล้วเนี่ย
???: ครูป้านรู้ได้ไงอ่ะ (ทำหน้าฉงนมาก)
ครูป้าน: โห..ก็หลักฐานมันฟ้องขนาดนั้น
วันอาทิตย์นี้เป็นวันแม่ วันศุกร์คุณครูจึงให้เด็กๆทุกห้องทำการ์ดวันแม่กันค่ะ เด็กเราหลายคนก็ทำแล้วเก็บไว้ให้คุณแม่ที่เมืองไทย (ปลื้ื้มซะไม่มี) ปรินกับแบมบี้โชว์ผลงานโดดเด่นมากค่ะ
บิวตี้เวลาเห็นครูป้านปลอบใจคนที่คิดถึงบ้าน บิวตี้จะบอกว่า ครูป้านขา หนูก็ร้องไห้ค่ะ (ตอนแรกครูป้านก็หลงเชื่อ) คือหนูร้องไห้เพราะอยากซื้อของที่ห้างน่ะค่ะ
มีเรื่องน่ารักของต้นไทรมาเล่าให้ฟัง ปกติต้นไทรจะเรียกครูป้านว่าน้าป้าน เพราะคุ้นเคยกันมานาน เรียนที่ KAS ตั้งแต่ 3 ขวบกว่า และไปต่างประเทศกับครูป้านตั้งแต่ 8 ขวบ ตอนนี้ 10 ขวบค่ะ วันก่อนต้นไทรไปเดินซื้อของกับครูป้าน ต้นไทรซื้อไอศรีมโคนเดินกิน ครูป้านเห็นแล้วก็บ่นอยากกิน ต้นไทรถามว่าอยากกินแล้วทำไมไม่กินล่ะครับ คือน้าูป้านกลัวอ้วนน่ะต้นไทร
สักพักครูป้านเดินไปเจอ New Zealand Icecream 97% Fat Free ครูป้านเดินรี่เข้าไปสั่งทันที ต้นไทรทำหน้าสงสัย
ต้นไทร: แล้วน้าป้านไม่กลัวอ้วนเหรอครับ
ครูป้าน: ไม่กลัวครับ เพราะมัน 97% Fat Free
ต้นไทร: นั่นสิ แล้วทำไมน้าป้านถึงไม่กลัวอ้วน
ครูป้าน: ก็มัน 97% Fat Free
ต้นไทร: มันหมายความว่าไงเหรอครับ
ครูป้าน: มันหมายความว่าลดไขมันลงไป 97%
ต้นไทร: อ๋ออออ!! ผมนึกว่ามันให้ไขมันมาฟรีๆ 97%
ครูป้านกับต้นไทร: กร้ากกกกกกกก
เรื่องสุดท้ายของวันนี้คือ โมกับเรตีไข่แตกตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ได้ใช้เงินซื้อของแล้วค่ะ โมพอซื้อของที่ SeaWorld รีบบอกครูป้านว่าครูป้านหักเงินหนูไม่ได้แล้วนะคะ ครูป้านทำหน้างง ก็ครูป้านบอกว่าถ้าหนูไม่ใช้เงินจะหักเงินหนู ตอนนี้หนูซื้อของแล้วค่ะ (คือตอนนั้น ครูป้านกลัวโมจะเครียดน่ะค่ะ ก็เลยอยากให้ซื้ออะไรที่อยากได้บ้าง) เอ..หรือครูป้านทำให้โมเครียดมากขึ้น ส่วนเรตอนที่เพื่อนไปซื้อบิลลาบองกัน เรไม่ซื้อ (แต่เก็บข้อมูล) แล้วดอดไปซื้อกับโฮสต์หลังจากนั้นค่ะ
ที่เหลือครูป้านปล่อยให้ดูรูปแล้วจินตนาการกันเอาเองนะคะ
หนุ่มน้อยคนนี้ทั้งหน้าตาดีและนิสัยดี มีเด็กๆเราแอบปลื้มอยู่หลายคน ไม่บอกหรอกว่าเป็นใคร เดี๋ยวครูป้านโดนสะกรำ เพราะตอนนี้เด็กๆหลายคนเป็นแฟน Blog เหมือนกัน