Search
Advertisement
Categories

Thursday March 24 at Mt. Muanganui

วันนี้เราพบกันที่โรงเรียนตามปกติ เราพากันขึ้นรถเมล์ 2 ต่อ ไป Mt. Muanganui ซึ่งซันเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า เม๊ากระจาย

เริ่มเดินออกจากโรงเรียน มีคนกระซิบว่าให้ถ่ายรูปชีไว้เยอะๆ วันนี้ชีใส่กางเกงขาสั้น คำว่า “ชี” หมายถึง “แม่ชี” และคำว่า “แม่ชี” หมายถึง “มิ๊นท์ ” นั่นเอง

เดินไปป้ายรถเมล์หน้า college

ถึงแล้วป้ายรถเมล์

รถเมล์มาตรงเวลาเป๊ะ ขึ้นรถเมล์สาย 60 ไปตัวเมือง Tauranga ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

ถึง Tauranga เราเดินเล่นฆ่าเวลารอรถเมล์สาย 1 ไป Mt.

พี่ซันโดนน้องๆจับมัดจุกเป็นตุ๊กตาเสียกบาล

แอนนี่ได้ยาหยอดตาไปวันเดียวดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด แอนนี่โชว์แผนที่เมือง Tauranga ที่ไปขอฟรีมาจาก Information Center

มาแล้วรถเมล์

โฮสต์บ้านอ้าย และบ้านมิ๊นท์กับแพ็ตตี้ ตามมาเที่ยวกับเราด้วย

ทายซิว่าสิ่งแรกที่เราทำเมื่อไป Mt. คืออะไร?

กินไอศครีม นั่นเอง ชื่อร้านโคเปนเฮเกนโคน อร่อยล้ำจริงๆ

หน้าตาไอศครีม กับหน้าตาคนกิน อันไหนสวยกว่ากัน

กลุ่ม พลอย มีมี่ แพ็ตตี้ มิ๊นท์ พิน ไอซ์ และฝรั่งอีก 2 คน ขอแยกไป beach บางคนเล่นใส่ชุดว่ายน้ำไว้ข้างในมาจากบ้านเลย  เห็นตั้งใจขนาดนั้น ครูก็ไม่เลยอยากขัด อนุญาตให้ 8 สาว เดินเล่นกันอยู่ชายหาดตามความตั้งใจตามประสาวัยรุ่น  โดย 6 สาวไทยรับปากว่าจะขอให้โฮสต์พามาขึ้นเขาอีกครั้งนึง

เริ่ม (ตะกาย) ขึ้นเขาแล้วค่ะ  พอเริ่มเดินก็เริ่มได้ยินเสียงบ่นออดแอด

พอเริ่มขึ้นเขา วิวสวยๆก็เริ่มทยอยมา ของจริงน่ะสวยกว่าในรูปเป็นร้อยเท่าพันเท่า  น้ำทะเลงี้เป็นสีเขียวสะท้อนกับแสงอาทิตย์ ท้องฟ้าก็เป็นสีฟ้าสด งดงามจริงๆ แอนนี่ดูจะเป็นคนที่ตื่นเต้นที่สุดกับการขึ้นเขาในวันนี้ เธอพูดไม่หยุด เสียงดังมาก และไม่มีทีท่าเหน็ดเหนื่อย

ระหว่างทางไม่ได้มีแค่เสียงบ่น ยังมีเสียงเพลงด้วยค่ะ พร้อมใจกันร้องเพลงประสานเสียงสนุกสนาน ใครเดินผ่านก็อดยิ้มไม่ได้

ได้ยินเสียงถามเป็นระยะๆว่า “ใกล้ถึงรึยัง”  ทุกครั้งที่ถาม ครูก็จะตอบว่าอีกนิดเดียว มีเสียงย้อนกลับมาว่า ครูอย่ามาหลอก เมื่อกี้ถามคนที่เดินสวนมา เค้าบอกว่าอีกไกล  อ้าว! รู้แล้วถามทำไมอ่ะ

แสดงให้เห็นว่าลิ้นห้อยกันแล้ว

ถึงแล้วค่ะจุดสูงสุดของ Mt. มีเสียงฮือฮาว่าสวยสมคำล่ำลือ

เห็นบันไดที่อยู่ด้านหลังริวไม๊คะ ริวที่กลัวความสูง ใจกล้าขาสั่นขอถ่ายรูปตรงนี้ไว้เป็นที่ระลึก หลังจากนั้นครูป้าน ก็ไม่อนุญาตให้ใครเดินลงไปถ่ายรูปตรงนี้อีก เพราะลมแรง  กลัวจะปลิวไปตามลม แอนนี่ส่งเสียงโหวกเหวก “ครู..ทำไมไม่ให้ลงไปยืนตรงนั้น อย่างงี้ก็เหมือนไม่ได้มาสิคะ” เธอยังไม่หายตื่นเต้น เสียงดังเหมือนเดิม  สุดท้ายตอนลงจากเขา แอนนี่เสียงแหบแห้งไปเลย พรุ่งนี้ครูจะเอา กำกิ๊กเผี่ยง ไปให้อมนะ

บันไดแห่งประวัติศาสตร์ ที่ครูป้านห้ามลงไปยืนถ่ายรูป มีเสียงถามมาว่า มันมีประวัติศาสตร์อะไรหรอ ครูป้านตอบไปว่า ก็ประวัติศาสตร์ที่พวกเราสร้างไว้ไง

กินก็ยาก ทำไมถึงได้ตัวโตขนาดนี้ก็ไม่รู้

เราลงกันอีกทาง ที่ไม่ใช่ทางเดิมที่ขึ้นมา ทางนี้จะลงไปที่ beach พอดี

เห็นบีชอยู่ข้างหลังแล้วค่ะ เดินอีกนิดเดียว

เดินลงมาเจอกองถ่ายทำโฆษณาพอดี เลยได้เห็นกองทรายสวยๆนี้

เดินเขาแล้ว มาเดินเล่นชายทะเลต่อ ครบเครื่องจริงๆ

เกิดอะไรขึ้นกับกาย เธอไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน แล้วลงไปเล่นชายหาด ไม่ได้เล่นธรรมดา เธอเฉลยทีหลังว่าลงไปหาหอย เพราะติดใจวันก่อนโฮสต์พาไปมาครั้งนึง คลื่นซัดเข้ามาโครมเปียกทั้งตัว ครูป้านเสนอให้ยืมกางเกงขาสั้นที่เตรียมมา โดยนำเสนอว่ากางเกงครูแมนมากเลยนะ แต่พอเธอเห็นกางเกง เธอก็ส่ายหน้าบอกไม่เอา ดีนะว่าเปียกตอนที่กำลังจะกลับแล้ว

อ้าย ดูเป็นสาวเชียวรูปนี้

นนท์ในมาดเสี่ย พร้อมฉากหลังเป็นเกลียวคลื่นขาวสะอาด

เล่นกันขนาดนี้เปียกไปถึงกางเกงใน (ซึ่งครูบี๋ บัญญัติคำเรียกแทน กางเกงใน ไว้ว่า “หนุงหนิง”) เด็กๆส่วนใหญ่ที่เตรียมชุดมาเปลี่ยนไม่ได้เตรียมหนุงหนิงมาหรอกค่ะ เป็นความผิดของครูเองที่บอกไม่ละเอียด คิดต่อเอาเองแล้วกันค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น คริคริ

มีมี่ กดตู้ซื้อน้ำ L&P ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์มีเฉพาะที่ NZ เท่านั้น รสชาตคล้ายๆ ไสปรท์ใส่มะนาว อร่อยดี

เด็กๆบางคนขี้เกียจแบก Lunch Box มาวันนี้  หลังจากเดินเขา และเล่นน้ำทะเลแล้ว ก็หิวกันละสิ เวลาก็มีอยู่น้อยนิด ระหว่างที่ให้เด็กๆล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า ครูป้านเลยอาสาเดินไปสั่งพิซซ่าให้ พอเด็กอาบน้ำเสร็จ พิซซ่าก็พร้อมกินพอดี กินที่ไหนหรือคะ ที่ป้ายรถเมล์ค่ะ  ก็บอกแล้วว่าเวลามีน้อย เราใช้เวลาที่นั่งรอรถเมล์ในการกินพิซซ่า กินไม่หมดก็แพ็คไปกินต่อที่ป้าย Tauranga

น้ำ L&P ค่ะ ไม่ใช่เบียร์ ดูมาดแม่ชีของเราซะก่อน

ขอพาดพิงถึงพินหน่อย เธอตั้งใจใส่กระโปรงพีทตัวสวยนี้ไปบีช ถึงบีชเธอก็ยังใส่กระโปรงตัวนี้ ไม่ยอมเปลี่ยนกางเกงขาสั้นทั้งๆที่เตรียมมา ไม่รู้เธอคิดอะไรอยู่ และเธอก็เป็นหนึ่งในคณะเราที่เปียกไปถึงหนุงหนิง

ป้ายรถเมล์นะคะเนี่ย

วันนี้คาดว่าทุกคนจะเข้านอนกันแต่หัวค่ำ เพราะเหนื่อยกันสุดๆ แม้กระทั่งโชคที่นัดให้แม่โทรมาหาวันนี้ (คุณแม่โชค มีข้อตกลงกับครูป้านเรื่องความถี่ในการโทรหาลูกอยู่ค่ะ เพราะน้อง homesick มากในช่วงแรก) วันนี้โชคฝากบอกแม่ว่าไม่ต้องโทรมาแล้วนะ ผมจะนอนแล้ว เหนื่อย (ครูได้ยิน ยิ้มแก้มปริ) เป็นไง!!!เดี๋ยวนี้โชคเปลี่ยนไป จากเด็กที่ร้องไห้ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน เดี๋ยวนี้มีแต่รอยยิ้มและความมั่นใจ  แถมยังสร้างเสียงฮาไม่ขาด โดยเฉพาะลีลาท่าเต้นและเพลงประจำตัวของเธอ  อันนี้ครูเลยขอเล่าอย่างภาคภูมิใจ.นตัวโชคค่ะ และต้องยกประโยชน์ให้ครูบี๋เลยค่ะ ที่รับมือกับโชคได้เป็นอย่างดี  ครูป้านเชื่อเสมอว่าความร่วมมือของผู้ปกครองและครูเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกเราประสบความสำเร็จได้ค่ะ

Leave a Reply