Search
Advertisement
Categories

NZ Mar 25-26

25 มีนาคม
เราออกเดินทางตอนแปดโมงกว่า (ตื่นเช้ากว่าวันไป รร.) มุ่งหน้าสู่ Dunedin ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.กว่า ทุกคนมี Lunch Box มาด้วย NZ มีภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขา ถนนจึงคดเคี้ยวไปมา Timaru เป็นเมืองเล็กๆ จึงไม่มีห้างใหญ่โต แต่ก็เช็คกับอู๋ให้นั่งแถวหน้าและใส่ wrist band ที่ช่วยเรื่องการเมารถมาเรียบร้อย (ซื้อมาจากร้านขายยา) ออกเดินทางมาได้ครึ่งทาง เสียงปริมบอก ครูคะหนูเวียนหัว ครูบอกให้คนขับจอดรถ (ครูนั่งคู่กับคนขับ) ครูรีบลงไปดู ปริมจะอาเจียนไม๊คะ ปริมพยักหน้าหงึกๆ จากนั้นก็จัดเต็ม
ครู: ปกติหนูเมารถไม๊คะ
ปริม: ไม่ค่ะ
ครู: เคยนั่งรถไปไหนนานๆไม๊คะ
ปริม: ตอนนั้นหนูไปซัปโปโล หนูนั่งรถ 4 ชม. หนูก็อาเจียนค่ะครู
ครู: แบบนี้แหละ เค้าเรียกเมารถ เด็กน้อยเอ๊ย!! 555 เลยจับย้ายมานั่งแถวหน้าสุด หลับปุ๋ยไปเลย ทริปนี้เซียงเพียวอิ๊วครูขายดีมากๆ

จุดแรกที่แวะคือ Otago Museum ซึ่งภายในมี 2 ส่วน คือส่วนของ Butterfly Garden และส่วนของ Museum เราเข้าไปส่วนของ Butterfly Garden ก่อน ส่วนนี้อากาศจะอบอุ่น เพราะเป็น Tropical Garden มีผีเสื้อสีสันสวยงามมากมาย มีนกตัวเล็กๆน่ารักเดินไปเดินมา อยู่ตามพุ่มไม้ และอยู่บนพื้น ต้องคอยเตือนเพราะกลัวเด็กๆจะเหยีบนกตัวน้อย เด็กๆเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมผีเสื้อ มีหลายคนที่ผีเสื้อมาเกาะตามตัวด้วย เช่น ธัมป์ ติตี้ อะตอม ซึ่งพวกเราลงมติว่า 3 คนนี้ไม่อาบน้ำ 5555 (อิจฉา) เสร็จแล้วเราก็เดินไปฝั่งของ Museum เด็กประถมให้ความสนใจพวก Fossil ของสัตว์โลกล้านปี เป็นพิเศษ ครูก็อ่านและแปลให้ฟังเท่าที่ทำได้ ส่วนเด็กโตสนใจพวกอาวุธโบราณ (สายโหด) จากนั้นก็เดินชมร้านขายของที่ระลึก และสั่ง chip ร้อนๆที่ Museum Café มาแบ่งกันกิน

จุดต่อไปคือ Ice Skating เนื่องจาก Open-Air Ice Skate ที่ Tekapo ปิด เราจึงเพิ่มกิจกรรม Ice Skate ในวันนี้ หลายๆคนเล่นเก่ง บางคนก็หัดเล่น ก็สนุกสนานกันถ้วนหน้าค่ะ

จุดต่อไปคือ Shopping เราไปที่ห้าง Meridian นอกจากในตัวห้างแล้ว ด้านหน้าห้างเป็น Main Street มี shop มากมาย รวมทั้ง Smiggle ร้าน Gift Shop ขวัญใจเด็กๆ ครูพาเด็กๆที่อยากซื้อของเล่นไป Toy’s World ก่อน แล้วให้เด็กๆแบ่งกันเดินเป็นกลุ่มๆ ส่วนครูก็หนีบตัวเล็กๆไว้ตลอดแหละค่ะ ทุกคนไม่พลาดกับการแวะกินอาหารญี่ปุ่น ปิดท้ายตอนรอรถตู้มารับที่จุดนัดพบ มีร้านMinimart ซึ่งมีไอศกรีมขาย ครูป้านเลยเลี้ยงไอศครีมเด็กๆ

จุดถัดมา คือ Baldwin Street ถนนที่สูงชันที่สุดในโลก เป็นถนนคอนกรีตเก่าๆ มีเสาไฟฟ้าเหมือนบ้านเรายังงัยก็ไม่รู้ เราตะเกียกตะกายกันเดินขึ้นไปจนถึงด้านบน หอบแฮ่กๆ คนที่เดินขึ้นไปได้จนถึงจุดสูงสุดคือคนที่ถ่ายภาพหมู่ 12 คน ที่ป้ายโขดหินภาพวาดเท่านั้นค่ะ ที่เหลือได้แค่แอคท่าถ่ายรูปกลางทาง (fake สุดๆ) 5555 ขากลับนี่หวาดเสียวจะหัวทิ่มลงมา มันชันมาก ต้องคอยตะโกนบอกเด็กๆว่าไม่ให้วิ่ง

เราออกเดินทางสู่ Omaru ซึ่งอยู่ระหว่างทางกลับ Timaru เพื่อแวะดู Penguin ตอน 20:00 ซื้อตั๋วเสร็จก็ไปนั่งบนอัฒจรรย์ซึ่งอยู่บนหน้าผาริมทะเล ที่นี่ห้ามถ่ายรูปค่ะ มีจนท.มาประกาศเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของเจ้าเพ็นกวินน้อยเหล่านี้ เป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน สักพักก็ประกาศว่าเพ็นกวินชุดแรกกำลังเดินมาแล้ว เราดูกันอย่างเงียบๆ อุ๊ยน่ารักจังเลย เดินเตาะแตะ กันขึ้นมา ชุดแรกผ่านไป จนท.ก็เล่าเรื่องเพ็นกวินต่อ สักพัก เจ้าเพ็นกวินน้อยชุดที่ 2 ก็เดินขึ้นเนินมา จนท.บอกว่า ชุดที่ 3 ต้องรออีกประมาณ 20 นาที ซึ่งอากาศหนาวมาก ลมแรง และดึกมากแล้ว ครูเลยพากลับดีกว่า ก่อนกลับแวะร้านขายของที่ระลึก แหม..เจ้าตุ๊กตาเพ็นกวินนี่มันช่างน่ารักซะจริงๆ ออกเดินทางกลับ แวะรับ Domino Pizza ที่โทรสั่งไว้มาแจกเด็กๆทานกันบนรถ กว่าจะถึง Timaru ก็เกือบห้าทุ่มค่ะ เหนื่อยกันมาก ครูเลยนัดเวลา 11:00 สำหรับ Tekapo Trip ในวันอาทิตย์

26 มีนาคม
เช้าวันอาทิตย์ Sarah โทรมาแต่เช้า บอกว่าที่ Tekapo ฝนตกหนัก Temp. 7 องศา อยากให้เลื่อนไปวันอื่น เพราะไปวันนี้จะมองไม่เห็น Lake Tekapo และหนาวมากด้วย ไปว่ายน้ำที่ C Bay หรือไปดูหนังไม๊ แล้วตอนเย็นก็ไป Trampoline Park ส่วน Tekapo เดี๋ยวไปวันอื่นแทน ครูก็โอเคตามนั้นค่ะ เพราะเมื่อวานเหนื่อยและหนาวมากแล้ว กลัวจะไม่สบายกัน

ครูสอบถามเด็กๆทุกคนว่าใครอยากว่ายน้ำ ใครอยากดูหนัง ปรากฏว่ามีว่ายน้ำแค่ 3 คน ปลาวาฬ แทน ธัมป์ ซึ่งแทนก็ไม่ค่อยสบาย ครูเลยชวน 3 คนว่าไปดูหนังกันดีกว่า ตกลงตามนั้นทุกคนไปดูหนังกันทั้งหมด ยกเว้น 4 หนุ่มขอไปเล่นที่บ้านของอะตอมและวิว แล้วตอนเย็นโฮสต์พามาส่งที่ Trampoline Park

เรานัดกัน 13:00 เพื่อไปดุหนังเรื่อง Power Ranger เด็กๆไปซื้อ Pop Corn แล้วก็บ่นว่าที่นี่มีรสเดียว ไม่เห็นเหมือนบ้านเราเลย ไม่เห็นอร่อยเลย บลาๆๆๆ เด็กๆดูหนังกับครูต้อม ส่วนครูป้านไปหาซื้อยาอมให้เด็กๆที่เจ็บคอ แต่ร้านยาที่ Main street ปิด เลยเดินไปซื้อที่ Countdown Supermarket ไปกลับประมาณ 2 กม. ได้ออกกำลัง พอหนังเลิกเด็กๆออกจากโรงหนังมา ทุกคนสงสัยว่า ตัวร้ายที่มาบุกโลกเพราะอยากกิน Krispy Crème หรอ?!? แล้วทุกคนก็อยากกิน Krispy Crème อิอิ

จากนั้นก็ไป Trampoline Park กระโดดเด้งดึ๋งดั๋งได้เหงื่อ เล่นไปเล่นมา หันไปเห็นปลาวาฬร้องไห้ ได้ความว่าทะเลาะกับเจ่เจ๊นี่เอง เพื่อนๆพี่ๆช่วยกันปลอบใจปลาวาฬ โดยเฉพาะ ขุน วิว อะตอม แบ๊งค์ มาช่วยกันกระโดด ขุนบอกว่า ถ้าปลาวาฬไม่ยิ้มพี่จะกระโดดไปเรื่อยๆ ปลาวาฬนั่งขัดสมาธิอยู่ พี่ๆกระโดดจนตัวลอยในท่านั่ง ในที่สุดปลาวาฬก็ยิ้มได้ 17:00 โฮสต์บางส่วนก็ทยอยมารับ บางส่วน Sarah ห็ไปส่งให้ที่บ้านค่ะ

Comments are closed.