Search
Advertisement
Categories

Week 3 Fri 7 & Sat 8 May

Rotorua trip on Sat 8 May 2010

พอรถโคชออกเดินทาง ครูป้านก็เริ่มประกาศผลโบว์ลิ่งที่เล่นกันไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เด็กๆถามกันใหญ่ว่ารางวัลคืออะไร  พอครูป้านชูรางวัลที่อยู่ในมือ แหมตาแทบถลนออกมาจากเบ้า  รางวัลอะไรหรอคะ เงิน คร้าาา  ครูป้านรู้ว่านาทีนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าเงิน จะไปซื้อทำไม๊พวงกุญแจ ตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา เก๊าะมันกินไม่ได้นี่นา..

ทีนี้ลุ้นกันใหญ่ เลย ครูป้านเริ่มประกาศจากจากลำดับ 4 ก่อน

ลำดับ 4 แบมบี้ คะน้า แนนซี่ น้ำผึ้ง ครูป้าน ครูปุ่น 15 ดอลล่า

ลำดับ 3 ต้นไทร โอม เอี๋ยว ตูน ฟัดจี้ 20 ดอลล่า

ลำดับ 2 แสตมป์ มิ๊นท์ นุ่น พราว เพชรเล็ก เอ็นดู หลุยส์ 25 ดอลล่า

ลำดับ 1 แก๊งหมีควาย และวิน 30 ดอลล่า

แต่ละทีม แต่งตั้งผู้จัดการมรดกกันเรียบร้อย ยกเว้นทีมลำดับ 3 ที่ดูแล้วไม่มีใครไว้ใจใคร แบ่งหารเงินกันทันทีทันใด ฮาาา

กิจกรรมแรกของวันนี้คือชมการแสดงการตัดขนแกะที่ Agrodome รอบ 9:30 น. พอเราเดินทางไปถึงได้แป๊บเดียวก็ได้เวลาโชว์พอดี ที่นี่มีหูฟังที่แปลเป็นหลายๆภาษารวมทั้งภาษาไทย ทีแรกครูป้านก็ไม่ได้ให้เด็กๆใส่หูฟัง เพราะเห็นว่าเด็กเราเข้าใจภาษาอังกฤษกันค่อนข้างดี พอโชว์เริ่มได้สักพัก แหมพูดทั้งเร็วทั้งรัว ครูป้านเลยต้องเดินไปเอาหูฟังมาแจกเด็กๆ

หมูตู้

แกะสายพันธ์ต่างๆจากทั่วโลก

เจ้า Marino ที่ยืนเป็นประธานอยู่แถวบนสุดตรงกลาง คือสายพันธ์ของนิวซีแลนด์เองที่เค้าภาคภูมิใจ

การตัดขนแกะ

ถึงตอนนี้ได้ยินเสียงเด็กๆหลายคนบอกสงสารแกะจัง

สัมผัสขนแกะของจริงที่พึ่งตัดมา

การรีดนมวัว

สุนัขต้อนแกะ

อ้าว! ไหงกลายเป็นสุนัขต้อนเป็ด

นี่ไง ผมต้อนแกะได้จริงๆ นะคับ

ผู้ดำเนินรายการ ขออาสาสมัครขึ้นไปป้อนนมลูกแกะ ผู้ชมยกมือกันพรึบพรับ หนูคะน้าโชคดีถูกเรียกขึ้นไปบนเวที

หลังโชว์เสร็จ เด็กๆมีความสุขและประทับใจมาก ยกโขยงกันขึ้นไปบนเวที สาละวนอยู่กับการถ่ายรูปกับเจ้าแกะจมลืมเวลา กรุ๊ปอื่นแทบจะไม่มีโอกาสแทรกเข้ามาได้เลย สุดท้ายหมดเวลาแวะซื้อของที่ร้านขายของที่ระลึกที่นี่ ต้องรีบเดินทางไป Rainbow Spring ต่อ  เด็กๆผิดหวังเล็กน้อย บาบาร่าบอกว่าสถานที่ ที่เราจะไปทุกที่มีร้านขายของที่ระลึกเหมือนกัน

กลัวๆกล้าๆ ตกลงรักน้องแกะจริงป่าวเนี่ย??

อ้าว! เค้าให้ลูบหัว ดันเอามือไปปิดตา แกล้งเจ้าแกะซะนี่

หมูตู้ + แกะ (ที่เห็นเม้มๆปากแบบนั้น คือ แกะมันเหม็น อ่ะคร้าาา)

เสร็จจาก Agrodome เราก็เคลื่อนย้ายขบวนไป Rainbow Spring Nature Park ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ใช้เวลาแป๊บเดียวค่ะ ที่นี่เราแยกย้ายกันเดินเป็นกลุ่มเล็กๆ ตามสะดวก


Silver Fern สัญญลักษณ์ของประเทศนิวซีแลนด์

ปลาเทร้า

เบิกเงินกันอีกแล้ว (ดีใจด้วยกับคนที่ยังมีเงินเหลือให้เบิก ฮิ้ววว)

น้ำแร่ให้ดื่มฟรี

ของฟรีเราไม่มีพลาดค่ะ

นกกีวี่ จุดนี้ต้องมองผ่านกระจก

หลังเสร็จกิจกรรมที่ Rainbow Spring Nature Park เด็กๆเลือกซื้อของที่ระลึกกัน ยังได้ยินเสียงคนบ่นเรื่องที่ไม่ได้ซื้อของที่ Agrodome  จากนั้นเราก็ไปทานอาหารกลางวันที่ Sulphur City Park พอรถขับเข้ามาในเมืองนี้ เราเริ่มเห็นควันจากบ่อโคลนเดือดลอยขึ้นมาเป็นจุดๆ แต่เรายังไม่ได้แวะดูกัน

เด็กๆนั่งทานอาหารจาก Lunch Box ที่เตรียมมากันทุกคนในบริเวณ Park บางคนกินเสร็จก็รีบมาปีนป่ายเจ้าเครื่องเล่นที่อยู่ใน park นี้ ติดกับ park มี Saturday market ขายพวกพืช ผัก ผลไม้ และอาหาร

เสื้อแดงที่อยู่บนยอดเครื่องเล่นนั่น ไม่บอกก็คงพอเดากันได้แล้วใช่ไหมคะว่าเป็นใคร??

เมื่อกี๊ยังสงสารแกะตอนโดนตัดขนอยู่เลย ตอนนี้กิน Lamb ย่างกันแล้วค่ะ

กินอาหารกลางวันเสร็จ แวะชมบ่อโคลนเดือด

หลังจากทานอาหารกลางวัน และชมบ่อโคลนเดือดแล้ว เราก็กลับไปที่ Kiwi Encounter ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับ Rainbow Spring Nature Park ที่นี่ให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุบาลนกกีวี่ตั้งแต่อยู่ในท้อง วางไข่ นกน้อยกระเทาะเปลือกออกมา จนกระทั่งเจ้านกโตพอที่จะกลับคืนสู่ป่า  ตอนสุดท้ายเราได้ดูนกกีวี่ของจริงตัวเป็นๆอย่างใกล้ชิดไม่ผ่านกระจก โดยมีกฏว่าต้องเงียบที่สุด และห้ามแตะต้องนกกีวี่เด็ดขาด ถ้าใครฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่เค้าจะไล่ออกไปทั้งคณะ เด็กๆตื่นตาตื่นใจกับเจ้านกกีวี่แสนน่ารัก 3 ตัว และอยู่ในกฎระเบียบกันดี เห็นเค้าอนุรักษ์และทะนุถนอมแบบนี้แล้วทึ่งจริงๆค่ะ  อ้อ! จุดที่เราดูกีวี่ตัวเป็นๆนี่ห้ามถ่ายรูปค่ะ รูปที่เห็นเป็นของปลอม

ชมความน่ารักของเจ้านกกีวี่แล้ว เราเดินต่อไปยัง Skyline ใกล้นิดเดียวค่ะ ครูป้านซื้อตั๋วให้เล่น Luge คนละ 2 รอบ

เข้าคิวขึ้นกระเช้า Gondola

กระเช้ามุ่งสู่ยอดเขา Mt. Ngongotaha

ถึงบนเขาแล้ว ไม่มีใครรอช้า ปรี่ไปขี่ Luge กันทันที

Luge ที่นี่ เค้ามี Track สำหรับ Beginner ก่อน ทุกคนต้องเริ่มเล่นรอบแรกที่ Beginner

นั่งกระเช้ากลับมา

โชคดี วันนี้พวกเราไม่ต้องต่อคิว เพราะคนไม่เยอะค่ะ บางวันคนเยอะมาก รอคิวนานเอาเรื่องอยู่ เด็กๆบางคนเล่นไป 2 รอบแล้ว ยังไม่สะใจ ขอซื้อตั๋วเล่นเพิ่มอีก บาบาร่าไปต่อราคากรุ๊ปให้เหลือ 6 ดอลล่า จากราคาปกติ 9 แต่ไม่ได้เล่นเพิ่มกันทุกคนหรอกค่ะ เป็นบางคนเท่านั้น

ละลายเงินที่ได้รับจากรางวัลโบว์ลิ่งกันที่นี่ (เงินมันร้อนนนน ต้องใช้ให้หมด)

จุดที่เราอยู่บนเขานี้ เห็นวิว Lake Rotorua สวยงามมาก ตั้งใจว่าก่อนกลับจะเรียกเด็กๆมาถ่ายรูปหมู่กัน พอเด็กๆเล่น Luge และละลายเงินรางวัลโบว์ลิ่งที่ Cafe กันเสร็จ ก็เข้าไปร้านขายของที่ระลึก เลือกซื้อของกันได้พักนึง มีคนบอก อยากเดินกลับไปซื้อของที่ระลึกที่ Rainbow Spring เพราะถูกกว่า เลยแห่กันไปหมด อดถ่ายรูปกับ Lake Rotorua เลย เสียดายจัง

วันอาทิตย์เป็นวันเกิดเพชรเล็ก เราร้องเพลง Happy Birthday กันบนรถตอนขากลับ พร้อมมอบการ์ดอวยพรน่ารักๆ (ฝีมือแนนซี่) ของขวัญวันเกิดถึงจะมาช้า แต่รับรองว่ามาแน่นอนนะเพชร คือครูป้านลืมเอามาอ่ะ ขอโทษเจงๆ

ตอนซื้อของที่ระลึกกันที่ Skyline เพชรถามครูป้านว่า ผมอยากได้ Boxer ตัวนี้ (ลายกีวี่ฟรุ๊ต และเขียนว่า Bite Me) ผมจะซื้อดีไไม๊ครับ ราคา 13 ดอลล่า ผมชอบอ่ะ มันเขียน Bite Me เต็มไปหมด ตรงเป้าก็มี  ครูป้านเห็นกางเกงแล้ว หัวเราะคิกๆ หนุนเพชรเต็มที่ ซื้อเลยเพชร ซื้อเลย

ก็เป็นอย่างที่เห็นในภาพนี่แหละคร้าาาา

เงิน 13 ดอลล่า กับความสุขที่เพชรได้รับ มันช่างคุ้มค่าจริงๆ

ครูป้านไม่รู้อะไรที่ทำให้เพชรเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เ จากวันแรกที่เจอกัน เพชรเงียบขรึม ไม่สุงสิงกับใคร ถามคำตอบคำ ได้ยินแต่ ครับ ครับ แล้วก็ครับ มาวันนี้เพชรมีเรื่องมาฮาไม่ซ้ำ แถมมุกเธอนี่เพื่อนขำกันน้ำตาไหล ไว้ให้ครูปุ่นเล่าต่อค่ะ

วันจันทร์ครูป้านขออนุญาตลาไปดูโรงเรียนที่ Christchurch วันอังคารตอนบ่ายก็กลับแล้วค่ะ  ครูปุ่นจะรับหน้าที่เขียน Blog ต่อ วันนี้ตีหนึ่งกว่าๆแล้ว ขอราตรีสวัสดิ์ก่อนนะคะ

——————————————————————

ในที่สุดวินกับฟัดจี้ ก็ยอมควักเอาเสื้อหนาวตัวหนามาใส่ ครูป้านล่ะดีใจจริงจิ๊ง แลบลิ้นทักทายกันเป็นพวกเอสกิโม

วันนี้เป็นวันแรกที่แนนซี่ (คนกลาง) ไม่หัวฟูมาโรงเรียน มัดผมมาเรียบแปล้

แนนซี่โชว์ลีลาการตักกีวี่ แบบมืออาชีพ

เรื่องราวเด็กมัธยมล้วนๆจากครูปุ่น

เด็กกีวีเห็นเด็กไทยกินโยเกิร์ตด้วยอาวุธ (ช้อน) ลุค (Luke ซึ่งเป็น Buddy ของเพชรเล็ก) จึงสาธิตวิธีการกินโยเกิร์ตแบบชาวกีวีให้ชมกัน

ขั้นที่ 1 เริ่มด้วยการเปิดฝาถ้วยโยเกิร์ตออกมาเพียงเล็กน้อย (ประมาณ 1 ซม. เหมือนลังเลว่าจะกินแต่เปลี่ยนใจไม่กินแระ!!!)

ขั้นที่ 2 ใช้ปากประกบ!!!! ถ้วยโยเกิร์ต

ขั้นที่ 3 ทำใจให้สบาย ไม่ต้องคิดอะไรมาก และดูดโยเกิร์ตขึ้นมา (ให้ได้) จนอากาศภายในกระป๋องโยเกิร์ตเหลือน้อย และทำให้กระป๋องเริ่มเปลี่ยนสภาพ…บู้ บี้ (ตามภาพประกอบ)

ขั้นที่ 4 ออกแรงดูดโยเกิร์ตให้มากขึ้นอีก (อาจต้องใช้ความมุ่งมั่นเล็กน้อย…สังเกตุจากสายตาของ Luke) และเริ่มใช้นิ้วช่วยกดกระป๋องโยเกิร์ตให้เนื้อและน้ำโยเกิร์ตเอ่อ ๆ ขึ้นมา

ขั้นที่ 5 เป็นขั้นตอนสุดท้าย (สำหรับคนขี้เสียดายของ) ขอให้พยายามใช้แรงดูดให้มากขึ้นอย่างมากมาย เพื่อให้โยเกิร์ตทุกหยาดหยดในกระป๋องออกมาให้หมด
ข้อควรระวัง: หากลำบากมาก ขอให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป เพราะอาจเป็นลมได้
ข้อเสนอแนะ: ไม่ต้องทำตามคนกีวีไปซะทุกอย่างก็ได้ น้อง ๆ พกช้อนมากินโยเกิร์ตเหมือนเดิม เราก็ไม่ลำบากหรอกค่ะ เพราะเราชินแล้ว ไม่เหนื่อยด้วย อิอิ

วัน Asthma Day ที่ College จะมีการขายลูกโป่งสีแดง ลูกละ 2 ดอลล่า เพื่อสบทบทุนช่วยเหลือคนที่เป็นโรคหอบหืดค่ะ เด็กไทยน่ารักมาก มีลูกโป่งกันทุกคน (เนื่องจากคนขาย ขนลูกโป่งมาเต็มรถ ขายไม่หมดและใกล้เวลาเข้าเรียนหลังพักทานกลางวันแล้ว จึงแจกลูกโป่งที่เหลือค่ะ ไม่ได้ช่วยสบทบทุนกะเค้าเล้ยยย)

เรียกรวมตัวเพื่อเช็คชื่อก่อนไป “วิ่งข้ามประเทศ” (Cross Country หรือ วิ่งมาราธอน) กันค่ะ

ยุ้ยฟิตมาก ขอร่วมวิ่งกับเค้าด้วย Miss Shirley ผู้ดูแลประสานงานทาง College ไปขอยืมกางเกงขาสั้นมาให้ใส่

สามสาว Stamp, Mint, and Noon … เค้าวิ่งไปกันหมดแล้วจ้า มัวทำอะไรกันอยู่….เอาน่า แค่ 3 กิโลเอง

หลังจากปล่อยแถวนักเรียนหญิงให้วิ่งไปกันก่อน ก็ถึงตานักเรียนชายบ้าง

มาแล้ว ๆ ยุ้ยสู้ ๆ

เย้ ๆ ใกล้ถึงเส้นชัยแล้ว ฮึดเข้า ๆ

ในที่สุดก็ทำสำเร็จ เข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 61 ค่ะ   ยุ้ยภูิใจสุดๆ บอกจะไม่ลบรอยปากกาที่โค้ชเขียนเลข 61 ออก (แปลว่า จะไม่อาบน้ำป่าวยุ้ย)

เบนมาแล้วค่ะ วิ่งมาด้วย เท่จริง ๆ แมนมั๊ก  ๆ

ฟลุ๊ค ๆ วิ่งมาราธอนนะค๊ะ ทำไมน้องเดินมาค๊ะ!!!

นั่งพักเหนื่อยกันหน่อย เหงื่อโชกเลยค่ะ ใครว่า NZ หนาว ไม่จริ๊ง ไม่จริง…

ส่วนผมเป็นผู้ตรวจการเด็ก College คนใหม่ครับ มาดูแลความเรียบร้อย วิ่งกันเสร็จหรือยัง เตรียมกลับบ้านกันได้แล้วครับ

Leave a Reply