April 28-30 @ YMCA Camp
สวัสดีค่ะ ไม่เจอกันซะหลายวัน คงรอดูรูปกันอยู่เลยใช่ไม๊คะ เมื่อวานกลับมาถึง Timaru ครูพยายามเขียนและเลือกรูปอยู่จนถึงเที่ยงคืนกว่าก็ยังไม่เสร็จ เช้านี้ครูป้านเดินถ่ายรูปเด็กมัธยมตามห้องเรียน เสร็จแล้วก็มานั่งเขียนบลอคได้แป๊บนึงก็พักเที่ยง เจอเด็กโตอีกรอบตอนพักเที่ยง แล้วครูป้านก็ไปหาเด็กประถมที่ Timaru South School เลยได้มานั่งอัพรูปอยู่ที่นี่ค่ะ
April 28 ออกเดินทางกันแต่เช้า โฮสแพคอาหารกลางวันมาให้ทุกคนกล่องโตทีเดียว ธรรมเนียมการเข้าค่ายของแถบประเทศ NZ & Australia จะเหมือนกันค่ะ นร.ต้องเตรียมหมอน ผ้าห่ม ถุงนอน ไปเอง ที่ค่ายจะมีที่นอนและผ้าปูให้เท่านั้น (บางที่ ผ้าปูที่นอนก็ต้องเอาไปเองค่ะ) ส่วนมากโฮสจะเตรียมของให้เรียบร้อยค่ะ ครูเตือนเด็กทุกคนให้เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวไปเต็มพิกัด เย็นวันจันทร์ ครูก็โทรหาทุกคนอีกรอบเรื่องของที่ต้องเตรียม คราวนี้เดินทางโดยรถตู้ 3 คัน มี Mr. Gill, Mrs. Ola, Mr. Barry เจ้าหน้าที่ที่รร.เป็นผู้ขับรถ และมีพี่ซังจุน นักเรียนม.ปลายชาวเกาหลี ที่มาเรียน NZ นานแล้ว มาช่วยดูแลน้องๆด้วย ซึ่งรถตู้ 1 คัน พ่วงตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขนกระเป๋าไปด้วยค่ะ เดิมทีตามตารางจะไป John Scott Lodge 2 วัน (ลงไปทางใต้ของ Timaru) แต่เนื่องจากปีนี้อากาศหนาวมาเร็วกว่าปกติ ยิ่งลงใต้ก็ยิ่งหนาว John Scott Lodge จึงปิดรับกรุ๊ปนักเรียน เพราะสภาพอากาศที่หนาวเกินไป ไม่สามารถทำกิจกรรม outdoor ได้ ทางรร.จึงได้ย้ายมาจัดที่ YMCA Camp เมือง Akoroa (ขยับขึ้นไปทางเหนือของ Timaru อากาศจะได้ไม่หนาวเกินไป) ที่ YMCA กิจกรรมจะแตกต่างจาก John Scott Lodge เพราะมี High rope จึงต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของ YMCA เป็นผู้ดำเนินกิจกรรม และดูแลเรื่องอุปกรณ์ safety
ได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว เราไปถึง YMCA Camp ประมาณเที่ยง เก็บของเข้าห้องพักเรียบร้อย ก็ทานอาหารกลางวันที่เตรียมมากันค่ะ จากนั้น YMCA Staff ก็มาแจ้งกฎระเบียบต่างๆ แล้วก็ออกสำรวจบริเวณ YMCA Camp กัน มีฝนตกพรำเป็นระยะ เตะบอลกัน หรือเล่นกันก็มีลื่นไถลกันบ้าง กางเกงเลอะบ้าง รองเท้าเลอะบ้าง เด็กๆหลายคนก็ยี้ๆกันใหญ่ ถามหาทิชชู่ ครุบอกทิชชู่เช็ดก็ไม่หายเลอะหรอก มันเป็นโคลน และเปียก เรามาค่าย เรามาลุยๆกัน adventure เลอะบ้างไรบ้างไม่เป็นไรหรอกนะจ๊ะ
บ่ายๆ เราก็ออกไปสำรวจเมือง Akoroa กันค่ะ ฝนตกๆหยุดๆ ในภาพจะเห็นว่าท้องฟ้าขมุกขมัว เด็กๆเดินเข้าออกร้านขายของที่ระลึก และปิดท้ายที่ร้าน Fish & Chip ซื้อมาชุดนึงก็มาแบ่งกันกินพอหอมปากหอมคอค่ะ Akoroa ได้ชื่อว่าเป็น French Town ในอดีตเคยเป็นชุมชนชาวฝรั่งเศสที่แล่นเรือมาค้าขายและอาศัยอยู่แถวนี้ เป็นเมืองตั้งอยู่ริมทะเล หรือ Akoroa Habour วิวทิวทัศน์ของ Habour สวยดีค่ะ ตอนเย็นมีโปรแกรมปิ้ง BBQ กัน แต่ฝนตกจึงต้องเปลี่ยนมาทานใน Canteen แทน
ตอนกลางคืนมีกิจกรรมเกมส์สันทนาการต่างๆ เสร็จกิจกรรมแล้วยังมี Cup Noodle ให้ทานตามอัธยาศัย ผลไม้ อาหารว่างก็วางไว้ให้ทานได้ตลอดค่ะ ช่วงที่เด็กๆทำกิจกรรมตอนกลางคืน ครูก็มาเตรียมทำอาหารเช้า ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะทำข้าวผัดไก่และแฮมให้เด็กๆทาน เพราะคิดว่าคงคิดถึงอาหารไทยกัน ป้าโอล่าอาสาหุงข้าวสวยให้ (แกบอกว่า แกชอบทำอาหารมากค่ะ ทำอาหารไทย เวียตนาม ญี่ปุ่น ได้หมด) ที่นี่ไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้า เค้าใช้หุงแบบเทน้ำทิ้งค่ะ (ซึ่งฝรั่งส่วนใหญ่ทำแบบนี้) ครูก็เตรียมหั่นผัก หั่นเนื้อสัตว์ ป้าโอล่าเรียกให้มาดูข้าวที่หุงเสร็จแล้ว ครู 2 คน มองหน้ากันตาปิบๆ เอ่อ…คือ มันดิบค่ะ ครูเลยต้องเปลี่ยนแผนทำข้ามต้มแทน ครูรีบไปสอบถามเด็กๆ ซึ่งเด็กๆบอกโอเค ข้ามต้มก็ได้ ฝนตกตลอดทั้งคืน ครูใจคอไม่ดีเลย ถ้าพรุ่งนี้ฝนตกแบบนี้ เราจะทำกิจกรรม outdoor ได้ยังงัย เปิดดู weather forecast ก็บอกว่าพรุ่งนี้ฝนจะตกทั้งวัน ไม่รู้จะพึ่งใคร เลยพนมมือสวดมนต์ดีกว่า ภาวนาขอให้พรุ่งนี้ฝนไม่ตก เด็กๆเดินทางมาไกล ขอให้เด็กๆได้ทำกิจกรรมตามที่ได้วางแผนไว้ด้วย
April 29
เช้า ครูรีบตื่นมาแต่เช้า มาทำข้าวต้ม อาจจะแปลกนิดนึง เพราะใส่ทั้งแฮมและไก่ แล้วก็ลวกไข่ ให้ทานกับข้าวต้ม และก็มีไมโลร้อนด้วย ทานอาหารเสร็จ เด็กๆแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ทาง YMCA ต้องการให้ทั้ง 2 กลุ่ม มี เด็กเล็ก เด็กโต และหญิงชาย คละกันค่ะ กรี๊ดดดด….ฝนไม่ตกค่ะ แถมยังแดดออก ฟ้าใสอีกด้วย เย้ๆๆๆๆ
กลุ่ม A (ครูป้าน) ฮูเร อ้อม ชมพู เปรม ไปท์ ริว เฟิร์ม XL สกาย ขขวด ไป Kayaking
กลุ่ม B (ครูต้อม) เมย์ อาปาเช่ ธีม ตีตั้น บี วิน ทิมมี่ กาย เฟม พี ไป High Rope
ขอเริ่มที่กลุ่ม A นะคะ พร้อมค่ะ ใส่กุงเกงขาสั้น รองเท้าที่พร้อมลงน้ำ และเอาผ้าเช้ดตัวไป 1 ผืน น้องเปรมไม่มีรองเท้าลงน้ำ ครูป้านเลยให้น้องใส่ของครูเพาะครูเท้าเล็ก (สีม่วง หวานแว๋วเชียว 555) แล้วครูป้านก็เอารองเท้าครูต้อมมาใส่แทน เด็กๆหลายคนถามว่าเราอยู่ในเรือทำไมต้องใส่รองเท้า ครูก็อธิบายว่า เผื่อเราตกจากเรือ เท้าเราอาจจะไปเหยียบโดนหินหรืออะไรที่ทำให้เราบาดเจ็บได้ ฝรั่งเค้าเน้นมากเรื่องการแต่งกายให้เหมาะสมกับกิจกรรมและความปลอดภัย YMCA instructor ชื่อ Jonathan เป็น Japanese/Canadian ค่ะ ใจดีมากๆ Jonathan พาพวกเราไปสวมเสื้อกันน้ำและชุชีพ ตรวจสอบความแน่นหนาเรียบร้อย เราก็ขึ้นรถตู้ออกไป Kayak ไม่ไกลค่ะ ประมาณ 10 นาที พอเด็กๆขึ้นรถปุ๊บ Jonathan ก็บอกเลยว่าเบาะนี้นั่งไม่ได้นะ seat belt เสีย ให้ย้ายไปเบาะอื่น นี่ขนาดนั่งแค่แป๊บเดียวนะคะ เค้ายังไม่ละเลยเรื่องความปลอดภัย พอไปถึง เราก็ช่วยกันลากเรือลงจากรถ แล้วก็เริ่มภาคทฤษี เริ่มแรกเลย 2 สาวของครูอิดออดมาก ไม่อยากทำกิจกรรมนี้ พายไม่เป็น หนุ่มๆบางคนก็บ่นกลัวหนาว บางคนก็ไม่อยากลงน้ำ สอบถาม Jonathan ได้ความว่า ปกติก็อยู่บนเรือนะ ไม่ได้ลงน้ำ ยกเว้น accident ที่เรือคว่ำเท่านั้น ได้เวลาภาคปฏิบัติแล้วค่ะ กล้องครูป้านไม่มีที่กันน้ำเลย ก่อนลงเรือเลยต้องวิ่งเอากล้องไปเก็บที่รถ รูปภายเรือกลุ่มนี้มีแต่ภาพถ่ายไกลๆ เพราะ Mr.Gill ช่วยถ่ายให้จากบนฝั่ง เราเริ่มพายกันออกมาละค่ะ พายไปได้แป๊บนึง ฮูเรกับอ้อม ไม่ขยับตามมาซะที Jonathan เลยพายเรือไปดู ปรากฏว่านั่งเรือผิดด้านค่ะ เอาท้ายเรือมาเป็นหัวเรือเลยพายไม่ไป 55555 คลื่นและลมสงบมาก แดดจ้าเลยค่ะ สภาพอากาสเอื้ออำนวยสุดๆ วิวก็สวยมาก Jonathan บอกอากาศดีมาก เราจะพายออกไปด้านนอก Habour กัน และก็อธิบายว่า Habour ที่เราพายกันอยู่ตรงนี้ ล้านปีก่อนเป็นภูขาไฟที่ระเบิดแล้ว ยอดเขาที่เราเห็นคือปากปล่องภุเขาไฟ ปากทางที่ออกสู่ทะเล คือส่วนที่ลาวาไหลออกมา แต่ตอนนี้น้ำทะเลไหลเข้ามาแทนที่หมดแล้ว เด็กๆเริ่มสนุกกันแล้วทีนี้ พายกันใหญ่เลย ไม่กลัวเปียก ไม่กลัวหนาว ไม่มีเสียงบ่นอีกแล้ว มีแต่ความสนุก กล้องครุไม่ได้กันน้ำ ครูเลยไม่ได้เอากล้องลงเรือมาด้วย ได้ถ่ายรูปแค่ตอนที่ฝึกอยู่บนชายหาดค่ะ ตอนที่ Mr.Gill ตามมาทีหลังมาดูกลุ่มเราทำกิจกรรม ครูเห็นเค้าถ่ายรุปตอนเราอยูในเรือไว้หลายรูป เลยขอรูปจากเค้ามา กลับมาเรื่องเด็กๆต่อ พอเราพายกันคล่องก็เริมแกล้งกันละทีนี้ เริ่มจากสกาย ที่คอยเอาพายวักน้ำสาดใส่ครู พอครูจะพายเรือไปทางไหน สกายก็ผลักเรือครูให้ไปอีกทาง หัวเราะชอบใจใหญ่ อ้อ..ลืมบอกไปว่า ลำละ 2 คน ค่ะ ครูพายกับชมพู มีการฝึกพายลอดใต้สะพานด้วย พอพายออกนอก Habour โอ้โห วิวสวยงามมาก เราแค่เลาะๆโขดหินริมเขาไปค่ะ สนุกมาก พายออกนอก Habour ไปไม่ไกล เพราะเรายังเป็น beginner กันอยู่ Jonathan ก็ให้เราพายกลับ เอ๊ะ เฟิร์ม ทำไมไม่ตามมา พายวนไปวนมาอยู่นั่น Jonathan ไปดู ปรากฏว่า พายผิดจ้า 5555 พอพายกลับเข้ามาใน Habour Jonathan ก็ให้ Challenge ที่ 1 ให้สองคนที่อยู่ในเรือสลับที่กัน Challenge 2 ให้สลับเรือกัน Challenge 3 ให้ยืนขึ้นทำท่า Head, shoulder, knee and toe แค่ Challenge ที่ 1 เฟิร์มก็ตกน้ำไปซะแล้ว จริงๆคงอยากตกอยู่แล้ว เพราะสนุกมาก ทุกคนทำ Challenge กันอย่างตื่นเต้นสนุกสนาน และแล้ว สกายกับ XL ก็ตกน้ำ (ด้วยความเต็มใจ) โดนพี่ซังจุนแกล้ง 5555 สกายพยายามจะมาคว่ำเรือครูบ้าง ครูก็อ้าง ไม่ได้ๆๆๆ เดี๋ยวชมพูไม่สบาย เลยรอดตัวไป อิอิ หมดเวลาซะแล้ว ลากเรือขึ้นฝั่งกัน พี่ซังจุนอุ้มน้องเปรมทำแกล้งจะโยนลงน้ำ เปรมยิ้มแป้นเชียวท่าทางจะอยากลง แต่พี่เค้าไม่ทำ เพราะน้องยังเล็กอยู่ค่ะ เราขึ้นรถตู้กลับ Camp อาบน้ำ แต่งตัว ทานอาหารกลางวัน แล้วก็ไปลุย High rope กันต่อ
ตอน High Rope แบ่งเป็น 2 กลุ่มๆละ 5 คน Mr.Jamie เป็น Instructor พาเราไปใส่อุปกรณ์ และแจ้งกฎต่างๆ อธิบายวิธีเล่น พร้อมทั้งสาธิตให้ดู เริ่มเล่นกันกลุ่มละฐาน กลุ่ม XL สกาย ขขวด ไปท์ เปรม เลือกเล่นฐานยากที่สุด น้องไปท์อาสาเล่นเป็นคนแรก ถึงจะไม่สามารถขึ้นไปจุดสูงสุด แต่ก็เก่งและกล้ามากค่ะ ผู้กล้าคนต่อไป ขขวด ขึ้นไปอย่างช้าๆ เพื่อนๆช่วยกันเชียร์ ขขวดตะโกนว่า ทำไม่ได้ ไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยังก้าวไปข้างหน้าตลอด ไม่ยอมแพ้เลย จนในที่สุดก็ถึงจุดสูงสุดจนได้ค่ะ ตอนที่ขขวดอีกแค่เอื้อมมือจะแตะเสาได้ น้องเปรมตะโกนเชียร์เสียงดัง พี่ขวดอีกนิดเดียวจะได้กอดแม่แล้วพี่!!!!! ครูขำก๊ากเลย หัวเราะน้ำตาไหลเลยค่ะ 555 ฝรั่งถามครูว่าเปรมพูดว่าอะไร ในที่สุดขขวดก็ทำสำเร็จ เก่งมาก ใจสู้สุดๆ XL ปีนขึ้นไปได้ถึงจุดสูงสุดเร็วมาก และฉลาดมาก พอลงมาก็ยังมาชื่นชมขขวดว่าผมไปได้เร็วเพราะเก็บข้อมูลตอนขวดปีนครับ น่ารักเป็นสุภาพบุรุษมากค่ะ สกายก็เก่งมากค่ะ เป็นคนเดียวที่ขึ้นไปขี่ Legging ball ได้ด้วย ถึงตาน้องเปรมตัวน้อยของครู เปรมไม่พลาดค่ะงานนี้ ปีนขึ้นไปเร็วมากและทำได้สำเร็จ
ส่วนอีก 5 คน ฮูเร อ้อม ชมพู ริว เฟิร์ม ก็ไม่เบาค่ะ พยายามกันอย่างเต็มที่ ที่จะทำให้สำเร็จให้ได้ ฐานแรก อ้อม เฟิร์ม ริว ทำได้สำเร็จ ฐานต่อไป เหมือนง่ายแต่ยากมาก เพราะที่ปีนเป็นเชือกมันแกว่งไปแกว่างมาได้ ฮูเรพยายามมากๆและทำได้ดีมากค่ะ ตอนเริ่มไม่ต่างจาก Kayak เลยค่ะ อิดออด ไม่อยากเล่น กลัว ทำไม่ได้ สารพัด แล้วเป็นงัยคะ ยากแค่ไหนเราก็ทำได้ค่ะ โดยใช้ความพยายาม ดูตัวอย่างจากเพื่อนคนอื่น มีการวางแผน เด็กๆแต่ละคนมีเทคนิคที่ทำให้สำเร็จที่แตกต่างกันค่ะ เด็กๆมีความพยายามกันขนาดนี้ ครูปลื้มสิคะ
————————–
กลุ่ม B (ครูต้อม) เมย์ อาปาเช่ ธีม ตีตั้น บี วิน ทิมมี่ กาย เฟม พี ไป High Rope ก่อนค่ะ
ฟังเจ้าหน้าที่อธิบายเรื่องอุปกรณ์และความปลอดภัย จากนั้นก็หาผู้กล้าคนแรก เกี่ยงกันอยู่พักนึง เราก็ได้ผู้กล้า คือ บี และทิมมี่ คนถัดมาในการเล่นด่านนี้คือ ธีมและกาย เด็กๆ พยายามกันอย่างมากค่ะ แต่เนื่องจากเราเริ่มด่านที่ยากก่อน จึงไม่สามารถปีนขึ้นถึงข้างบนสุดได้ แต่ก็พยายามกันมากๆ เก่งมากๆ ค่ะ เราเปลี่ยนไปเล่นด่านถัดไป Legging Ball เจ้าหน้าที่ก็อธิบายการเล่น เสร็จเราก็ต้องหาผู้กล้าอีกครั้ง แล้วเราก็ได้ทิมมี่ เป็นอาสาสมัคร ทิมมี่สามารถเดินไต่เชือกจากด้านนึงไปจนสุดอีกด้านนึงจากนั้นปรับความสูงของด้านขึ้นอีกระดับคือเดินบนขอนไม้ แบบไม่มีอะไรให้จับเลย ว๊าวว (กล้าหาญมาก ๆ) เดินไปถึงครึ่งทาง ความสูงและความสั่น ขอลงมาดีกว่า ด้านอีกฝั่งคือเดินไต่เชื่อกคราวนี้วินอาสา ขอไต่เชือกโชว์พลัง ด่านนี้จะเป็นการไต่เชือกจากด้านนึงไปอีกด้านนึงโดยมีเชื่อกให้จับประคองตัวไปได้แต่พอสุดทางก็ต้องขยับขึ้นไปไต่อีกเส้นนึงแบบไม่มีเชือก!! แต่สามารถจับเชือกที่เป็น Safety ของตัวเองได้ ก็เช่นกัน เดินไปจนถึงกลางทาง ทั้งลม ทั้งเสียววินจึงขอลงมา เก่งมากๆค่ะ เฟมไม่พลาด ไต่ขึ้นไปบ้าง ทพได้ดีทีเดียว ถัดไปเป็นด่านที่โหดและหินที่สุด วินขอลองอีกครั้ง คราวนี้วินผ่านการไต่หน้าผาจำลองได้อย่างรวดเร็วขึ้นไปจนถึงสุดของหน้าผาจำลองแต่ด้วยข้อจำกัดของเชือกที่สูงทำให้ตะกายไปไม่ถึง จึงต้องขอลงจากด่านนี้ สุดยอดจริงๆวิน ฟาก 2 สาว เมย์และอาเปเช่ ค่อนข้างกลัวความสูงจึงขออยู่ข้างล่างเป็น Belay ให้เพื่อนแทน 2 หนุ่ม ตีตั้น พี ก็ขอลองนิดหน่อย แล้วก็มาคอยเป็น Belay ให้กับเพื่อนๆที่ปีนขึ้นไป
พักกลางวันเติมพลังกันเสร็จ กลุ่มเราไปต่อกันที่พายเรือคยัก เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวพร้อมชูชีพ โค้ชอธิบายการพายเรือ และตรวจเช็คว่าใครว่ายน้ำเป็นและไม่เป็นก่อนลงน้ำ โชคดีมากที่ดีท้องฟ้าแจ่มใส เราจับคู่กันพายเรือ กายคู่เฟรม เมย์คู่อาปาเช่ พีคู่ธีม ตีตั้นคู่ซังจุน บีคู่วิน และครูคู่กับทิมมี่ กลุ่มนี้ เมย์มีกล้องกันน้ำ ครูเลยได้ยืมมาถ่ายตอนพายเรือกัน ได้ภาพสวยๆมาฝากค้่ะ โค้ชพาพวกเราพายเรือไปถึงจุดที่มีทุ่น พายเรือรอบ ๆ ปล่องภูเขาไฟ พายเรือตามมาเป็นขบวน จากนั้นโค้ชเริ่มเห็นสภาพอากาศเปลี่ยนลมเริ่มพัดแรงจึงเร่งทุกคนให้พายเข้ามาใก้ลฝั่ง คนที่ต้องลุ้นคือวินและพี ที่พายๆหยุดๆ พอหยุดลมก็พัดออกไป พอพายก็เดินหน้า เสร็จหยุดพายลมก็พัดออกไปอีก จนโค้ชต้องบอกย้ำๆว่าพายห้ามหยุดไม่งั้นก็อยู่ที่เดิม พอเรามาถึงจุดที่ใก้ลทุ่น โค้ชมี mission ให้ทำคือ ให้เราสลับเรือ (จุดนี้น้ำไม่ลึกมาก) ก็มีการเล่นกันผลักกันลงเรือโดยเริ่มจากซองจุนแกล้งตีตั้นลงน้ำ แล้วก็แกล้ง กายกับเฟรม แล้วก็ธีมกับพี จากนั้นซองจุนก็โดนเราตลบหลัง โดยพวกเด็กๆพยามผลักซองจุนให้เปียกเหมือนกัน สนุกสนานกันพอสมควรก็ถึงเวลากลับ
————————–
พอเข้าถึงที่พักอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ฝนก็เริ่มตกลงมา (ฟ้าฝนเป็นใจจริงๆ) ครูเองทำกิจกรรมกับเด็กๆเสร็จก็รีบมาหุงข้าว ทำอาหาร ไม่ได้มีเวลามาเตรียมไว้ก่อน เพราะทำกิจกรรมอยู่กับเด็กตลอดทั้งวัน วันนี้เรามีอาหารไทยให้ทุกคนทานคือ ลาบมาม่าหมูสับ ไข่เจียว แกงเขียวหวานไก่ และข้าวสวยร้อนๆ เป็นการทำที่ยากมาก เพราะบางคนไม่ทานเผ็ดเลย บางคนอยากทานเผ็ด จะทำแยกก็ไม่มีเวลา ก็พยายามทำให้รสชาตกลางๆ มีคนทานไปแก้มแดงไปหลายคน เพราะลาบเผ็ดนิดนึง งานนี้เรามีคนร้องไห้ด้วย ทีแรกก็นึกว่าเผ็ดไป ที่ไหนได้สำลักอาหาร จนน้ำหูน้ำตาไหลค่ะ คือกายนั่นเอง ครูป้านกับครูต้อม มือเป็นระวิง ทำแทบไม่ทัน เพราะวันนี้เด็กๆหิวมาก ใช้พลังงานกันไปเยอะ จะหั่นหัวหอมกับมะเขือเทศใส่ไข่เจียว ยังไม่ทันเลย หลังทานข้าวให้เด็กๆพักผ่อนและเก็บสัมภาระต่างๆ ตอนค่ำๆก็มีกิจกรรม Dodgeball เล่นกันสนุกสนาน คืนนี้มีเสียงเด็กๆขอไม่นอน อยากเล่นไพ่ทั้งคืน ครูเลยยื่นไม้ตาย พรุ่งนี้ครูจะพาไปช๊อปปิ้ง ห้างใหญ่ Westfield Riccarton @ Christchurch ต้องออกแต่เช้า เพื่อที่จะได้มีเวลาช๊อปนานๆ เลือกเอาว่าจะนอนแล้วตื่นเช้าไปช๊อปปิ้ง หรือเล่นไพ่ทั้งคืน พรุ่งนี้ตื่นไม่ไหว ไม่ต้องไปช๊อป รู้คำตอบกันอยู่แล้วใช่ไม๊คะ 55555 สี่ทุ่มกว่าๆครูเดินตรวจอีกรอบ ก็นอนกันหมดแล้ว
April 30
ทานอาหารเช้าเรียบร้อย หนุ่มๆก็มาช่วยขนข้าวของขึ้นรถ แล้วเราก็เดินทางไป Westfield Riccarton Mall ประมาณ 10 โมงนิดๆก็ถึงห้าง ให้เวลาไปเดินช๊อปปิ้งตามอัธยาศัย ครูให้แบ่งกันไปเป็นกลุ่มๆ ห้ามไปไหนคนเดียวเด็ดขาด กลุ่มสาวๆ ตามหาร้านเครื่องเขียน Smiggle ตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก เหมากันมาพอสมควรค่ะ ถึงเวลานัด มากันพร้อมเพรียง ตรงเวลาทุกคน น่ารักที่สุด เราก็เดินทางกลับ Timaru กันค่ะ ถึง Timaru ก็ 4 โมงเย็นโดยประมาณ โฮสต์ของแต่ละบ้านมารอรับเด็กๆด้วยความคิดถึง