KAS BLOG

Archive for April, 2013

อยู่ดีๆ เรื่องราว London ที่ทำไว้ก็หายไป ครูต้องมานั่งทำใหม่อ่ะค่ะ ฮือๆๆๆ

Weekend นี้เราเข้ามาเที่ยวลอนดอนแบบค้างคืนกันที่ลอนดอน 1 คืน วันเสาร์เราตกลงยินยอมพร้อมใจจะออกเดินทางแต่เช้า จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ ครูได้เตือนอย่างเป็นทางการแล้วว่า วันศุกร์ให้นอนแต่หัวค่ำ weekend นี้ เราจะต้องเดินเยอะมาก และเหนื่อยมาก ให้สวมรองเท้าสบายๆเหมาะแก่การเดินกันด้วย เราตกลงกันว่าพบกันที่ Eastbourne Station 7.45 วันนี้ทุกคนตรงเวลามาก รถไฟออก 8 โมงเช้าเป๊ะ ต่อเดียวถึงลอนดอนเลยค่ะ นั่งเพลินๆ ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง เรามีการปรับโปรแกรมด้วยนิดหน่อยเพื่อให้เหมาะสม

Sat: Buckingham Palace & Change of the guard, Westminster Abbey, Shopping streets: Oxford Street & Regent Street, Westfield Shopping Mall, YHA Thameside Hostel

ถึงลอนดอนเราเอากระเป๋าไปเก็บที่ที่พักกันก่อน จะได้ไม่ต้องแบกกันทั้งวัน แล้วเราก็รีบไป Buckingham Palace ลงรถไฟเราเดินผ่าน Green Park ทุ่งหญ้าเขียวขจี มีกระรอกน่ารักมากวิ่งไปมา เช้าวันเสาร์อากาศอบอุ่น มีแดดออก เราไปทันเวลาได้ดู Change of the guard พอดี คนมากมายแต่เราก็ยืนอยู่ในมุมที่เห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ ถ่ายรูปกันจนหนำใจ แล้วเราเคลื่อนย้ายขบวนไป Westminster Abbey ซึ่งเป็น Cathedral ประจำราชวงศ์ ใช้จัดพิธีสำคัญของราชวงศ์ เช่น พิธีขึ้นครองราชย์ของ Queen Elizabeth ล่าสุดก็เป็นพิธีแต่งงานของ Prince William จากนั้นก็ขึ้นรถไฟไป Oxford Street ใกล้นิดเดียวเองค่ะ เราหาร้านอาหารทานกันแถวๆ Oxford Street นี่แหละ อร่อยดีค่ะ (หิวมากด้วย) ครูชี้จุดนัดพบให้ดู อธิบายเส้นทางช้อปปิ้ง บอกทางสาวๆไปห้าง Selfridges นัดเวลาสี่โมงเย็น ครูกำชับไปว่าถ้ายังซื้อของไม่เสร็จและมีแนวโน้มจะมาสายให้โทรบอกครูล่วงหน้าก่อนเวลานัดครึ่งชม. แล้วก็แยกย้ายกันเดิน

ครูพาสามหนุ่มที่ยังเงอะๆงะกับการช้อปปิ้งไปด้วย สามหนุ่มกระโจนใส่ Nike Town ตรงหัวมุมถนนก่อนเลย ต่อด้วย Apple Store ใหญ่มากบน Regent Street บูมชอบร้านนี้เป็นพิเศษ สาวๆโทรแจ้งก่อนวลาตามเงื่อนไขว่าขอเลื่อนเป็นห้าโมง ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา ครูพาสามหนุ่มเดินต่อไป SuperDryJapan ยี่ห้อสุดฮิตในอังกฤษที่แนทอยากดู ท้ายสุดเราจอดที่ร้าน Lilly White ร้านกีฬาใหญ่ที่ไช้ชื่นชอบ กลับมาถึงจุดนัดหมายตรงเวลากัน ทุกคน เปียกปอนกันไปตามระเบียบ เพราะช่วงบ่ายฝนตกพรำๆตลอด สาวๆเอาของยี่ห้อ BOY LONDON มาโชว์ เล่นเอาหนุ่มๆตาโตอยากได้บ้าง คุณพ่อคุณแม่เจมี่ที่มาเที่ยวอังกฤษมาขอรับเจมี่จากจุดนี้ไปนอนด้วยหนึ่งคืน บ๊ายบายเจมี่ แล้วเราก็ยกขบวนนั่งรถไฟต่อไปห้างใหญ่ม๊าก Westfield ครูพาเด็กๆไปเลี้ยงอาหารไทยที่ร้าน Busaba EAT Thai ที่อยู่ใน Westfield ส่วนมากก็อร่อยกัน ยกเว้นคนที่สั่งข้าวผัดเขียวหวาน บอกมันเลี่ยนกะทิเยอะไปหน่อย ตอนนี้เริ่มเหนื่อยแฮ่กกันถ้วนหน้าแล้วค่ะ เดินมาตั้งแต่เช้า ได้ยินเสียงบ่นว่าเดินจนช่วงล่างจะหลุดแล้ว!! แต่ก็สู้ไม่ถอยกันค่ะ นัดเจอกันสามทุ่มที่ Starbucks ถ้าใครเมื่อยก่อน ก็ให้มานั่งรอก่อน จากนั้นก็กลับที่พักกัน เหนื่อยขนาดนี้คิดหรือว่าจะนอนกัน สาวๆนั่งเล่น..นั่งเม๊ากันต่อ หนุ่มๆอีกห้องน่าจะหมดแรงหลับไปก่อน

Sun: London Eye, งานสงกรานต์ @ วัดพุทธประทีป, Tower Bridge & Tower of London, Eastbourne

วันอาทิตย์นัดทานอาหารเช้า 8.30 หนุ่มๆตรงเวลาเหมือนเดิม สาวๆมาสายหน่อย เพราะนอนดึกมัวแต่สนุกกัน ทานอาหารเช้าที่โรงแรม เราทิ้งกระเป๋าสัมภาระไว้ในห้องเก็บของที่นี่ลอคกุญแจอย่างดี แล้วเราก็รีบไป London Eye กันก่อนที่คิวจะยาวเหยียดเกินไป ถึง London Eye คุณพ่อคุณแม่เจมี่พาน้องมาส่งคืนให้เราตามเวลานัดหมาย พวกเราต่อแถวไม่นานก็ได้ขึ้นไปชมวิวด้านบน พอกลับลงมาด้านล่าง เราไปซื้อของที่ร้านขายของที่ระลึก ร้านนี้มีของสวยๆดีค่ะ

จากนั้นเราก็ขึ้นรถไฟไป Wimbledon ที่อยู่ชานกรุงลอนดอน เพื่อไปร่วมงานสงกรานต์ที่วัดพุทธประทีปกัน คนมหาศาลเล่นเอาพวกเราอึ้งไปทีเดียว คนไทยที่อยู่อังกฤษนับถือหลวงพ่อดำที่วัดนี้มากค่ะ เมืองใหญ่อื่นๆในอังกฤษก็มีวัดไทยบ้างเหมือนกัน แต่ปีนี้บางวัดก็ไม่ได้จัดงาน คนเลยยิ่งแห่กันมาที่นี่ เบียดเสียดเลยทีเดียว ทั้งคนไทย ทั้งฝรั่ง คนเต็มไปหมด พวกเราไม่รอช้าไปต่อคิวซื้ออาหารไทยกัน ส่วนมากจะทานก๋วยเตี๋ยว ส่วนครูไปต่อคิวที่ยาวที่สุดซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง อร่อยสมกับที่รอคอย ไหว้พระแล้วก็กลับเข้ามาลอนดอนต่อ เดินทางไปที่ Tower Bridge & Tower of London เราเข้าไปชมกันด้านในเลยค่ะ เข้าไปในโซน Crown Jewel ได้เห็นมงกุฎประดับเพชรพลอยของจริง เครื่องจัดเลี้ยงในราชพิธี ที่เป็นทองคำแท้ๆ ดาบทองคำฝังเพชรพลอยประจำพระองค์ พวกเราฮือฮากับภาพสิ่งของที่จัดโชว์ที่อยู่ตรงหน้า ทำให้หายเหนื่อยเลยทีเดียว เด็กๆสนใจใคร่รู้ในประวัติศ่าสตร์กันมาก น่าชื่นใจ เราเดินชมส่วนต่างๆ เผลอแป๊บเดียวก็เย็นแล้ว เรากลับไปที่โรงแรม ได้เวลารถมินิบัสมารับพวกเราพอดี ขนสัมภาระขึ้นรถกลับ Eastbourne กันค่ะ ที่ครูให้รถบัสมารับเพราะวันอาทิตย์ที่อังกฤษรถไฟชอบปิดซ่อมบำรุงเป็นช่วงๆ จากที่ขึ้นรถต่อเดียว บางทีก็กลายเป็นหลายต่อ บางสายก็ตัดเวลาเดินรถออก ทำให้รถยิ่งน้อย คนยิ่งแน่นมาก พวกเราเหนื่อยกันมามากแล้ว เลยคิดว่ากลับบัสดีกว่าค่ะ

ทุกๆที่ที่เราไป เราใช้เวลากันอย่างเต็มที่ ครูย้าย British Museum ไปป็นพุธที่ 1 May ซึ่งเป็นวันที่เราจะเข้ามาดู A Matinee Performance of Lion King กัน จะได้มีเวลาเดินชมนานๆไม่รีบมากค่ะ

อร๊ายยยยย….ครูปัดต้องขอโทษคุณพ่อคุณแม่ทุกๆ ท่านเลยนะคะ ที่อัพบล็อคของวันที่ 11 เมษาไว้แล้ว แต่ดันลืมติ๊กเลือกกรุ๊ปนิวซีแลนด์ โพสต์เลยไม่โชว์ที่หน้าเว็บ อุตส่าห์รีบมาอัพให้อ่านกันเร็วกว่าทุกวันแล้วเชียว แบบเลิกเรียนปุ้บกลับมาอัพปั๊บ กว่าจะรู้ตัวก็นี่แหละค่ะ วันที่จะมาอัพบล็อคของวันสุดท้ายให้ได้อ่านกัน สงสัยจะรีบไปเก็บข้าวเก็บของซะเอ๋อเลย ต้องกราบขออภัยที่ให้ต้องรอนะคะ ครูปัดกด re post ไปแล้วค่ะ ยังไงเลื่อนลงไปอ่านได้นะคะ

งั้นเรามาเล่าเรื่องของวันสุดท้ายและท้ายสุดของการเดินทางครั้งนี้กันดีกว่า April 12, 2013 เป็นวันที่พวกเราต้องเดินทางกลับประเทศไทยอันเป็นถิ่นฐานบ้านเกิดกันแล้ว เช้านี้เรานัดกันตั้งแต่พระอาทิตย์ตื่นนอนเลยค่ะ เวลา 06:30 น. เด็กๆ ใส่เสื้อกันหนาวตัวหนามาเพราะครูปัดย้ำว่าเช้าตรู่อากาศจะเย็น แถมจะได้ลดพื้นที่ในกระเป๋าอีกทางด้วย ฮ่าๆๆๆๆ  มีโฮสแต่ละบ้านขับรถมาส่งเด็กๆ และร่ำลากัน เป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ แต่ละบ้านก็กอดกัน ลากัน ชนิดที่เรียกว่าซึ้งเลยล่ะค่ะ น้องเอิร์นของเราร้องไห้เลย ส่วนคุณโมนิก้าผู้ดูแลพวกเราก็ฝากมาชมว่า เด็กๆ กรุ๊ปนี้น่ารัก ประพฤติตัวเรียบร้อยดีมากๆ เลย แล้วพวกเค้าทุกคนที่นั่นจะคิดถึงเราค่ะ

06:40 ได้เวลาออกเดินทางค่ะ โฮสหลายๆ บ้านยืนรอโบกมือบ๊ายๆ ให้พวกเรา แล้วรถตู้ก็ค่อยๆ เคลื่อนออกไปจากเมือง Otumoetai ที่เราอยู่ ถามว่าดีใจมั้ยที่ได้กลับบ้าน ทุกคนตอบว่า “ดีใจค่าาาาา/ค้าบบบบบ” แต่ถามว่าอยากอยู่ต่อมั้ย ก็มีเสียงตอบมาเหมือนกันว่า “อยากกกกกก….กำลังสนุกเลย” นั่นไง…ติดใจแล้วล่ะสิ

เช้านี้มีสายรุ้งเส้นโตมาส่งเราระหว่างทางด้วย เนื่องจากมีฝนตกเป็นฝอยๆ ปนกับแสงแดดยามเช้าค่ะ ดังนั้นเด็กๆ จึงได้เห็นรุ้งสีสวยชัดมากๆ วิ่งตามเราไปตลอดเส้นทางเลย แล้วพวกเราก็แวะระหว่างทางเพื่อเข้าห้องน้ำที่ริมลำธารแห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากยังพอมีเวลาเหลือ น้าเคนคนขับรถคนเดิมเลยถือโอกาสพาเด็กๆ เดินข้ามสะพานแขวนไปชมเหมืองทองเก่ากันแป๊บนึง ณ ลำธารที่นี่อากาศหนาวมากค่ะ พูดออกมาเป็นไอเลย หลายคนเลยพยายามจะพ่นควันกันใหญ่5555

ออกเดินทางกันต่อจนในที่สุดก็ถึงสนามบินเรียบร้อยค่ะ เช็คอิน เดินดิวตี้ฟรี ทานข้าวกันแล้วก็ไปนั่งรอกันที่หน้าเกทค่ะ ดูเหมือนว่าแต่ละคนจะตื่นตัวกันเต็มที่เลยนะคะเนี่ย เพราะหลังจากทานข้าวมื้อแรกบนเครื่องเสร็จก็เริ่มมีการตั้งวงเล่นไพ่กันค่ะทั้งมายด์ เกรซ แตงกวา เอิร์น พราว ทศและแซม สาวๆ college อย่างไอรีน นามมี่กะจินนี่นั่งดูลัดดาแลนด์กัน แล้วก็กรี๊ดกร๊าดกลัวผี เอาหมอนปิดหน้ากันใหญ่ โบกี้นั่งเล่นเกมส์ในไอแพด ส่วนกันต์ ต้นกล้า และบิ๊กก็เพลิดเพลินกับการเล่นเกมมากๆ ค่ะ นอกนั้นก็งีบกันบ้าง 5 นาที 10 นาที ยกเว้นครูหญิงที่หลับจริงจัง  ซึ่งน่าจะโดนกันต์แอบถ่ายภาพหลุดไปเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวต้องรอชม 55555

ช่วงระหว่างการเดินทาง มีคุณแม่ของจินนี่ซึ่งเป็นลูกเรือการบินไทยแวะมาดูแลพวกเราเป็นอย่างดีค่ะ คุณแม่ได้พาเด็กๆ เข้าไปรวมตัวกันในแกลลี่หรือห้องครัวท้ายลำเพื่อกล่าวความในใจถึงครูปัดกะครูหญิงด้วย เล่นเอาซึ้งจนต้องแอบกลั้นน้ำตาไว้เหมือนกันค่ะ และคุณแม่ก็ถือโอกาสเป็นตัวแทนของผู้ปกครองทุกท่านมอบของที่ระลึกให้กับครูปัดและครูหญิงด้วย ต้องขอขอบพระคุณมากๆ เลยนะคะ

เอ๊าาาาา….กลับมาต่อกันที่ที่นั่ง อึดกันจริงๆ ค่ะ ไม่มีใครยอมนอนเลย ทั้งดูหนัง นั่งเม้าท์ นั่งเล่น นั่งกิน เพลิดเพลินเจริญใจกันมากมาย หลายคนมาถามครูปัดว่า ตอนนี้เราถึงไหนแล้ว เอ่อ….ครูปัดเลยพาเปิดหน้าจอ flight info กะแผนที่ให้ได้ดูกันเลยละกัน ว่าตอนนี้บินผ่านจุดไหนของโลกกันอยู่  แล้วเวลาที่พวกเรารอคอยก็มาถึง เมื่อเครื่องเริ่มลดระดับลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ

พวกเราผ่านตม.กันมาได้อย่างราบรื่น ครูปัดบอกนิ่งไว้ๆ เพราะดูเหมือนหลายคนจะนอยด์ กลัวโดนตรวจเฟอร์บี้ค่ะ แต่ในที่สุดก็ผ่านกันมาได้และเด็กๆ ก็ถึงมือคุณพ่อคุณแม่อย่างปลอดภัยค่ะ

ในนามของ KAS Education ครูปัดและครูหญิงขอขอบพระคุณผู้ปกครองทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเราให้ดูแลบุตรหลาน หากมีสิ่งใดขาดตกบกพร่องไป ต้องกราบขออภัยมา ณ โอกาสนี้ค่ะ

สำหรับเด็กๆ คนไหนมีภาพหลุด ภาพฮา ภาพแอบถ่าย (โดยเฉพาะกันต์) ส่งเมล์มาให้ครูได้ที่ [email protected] นะคะ แล้วเดี๋ยวครูปัดจะมาอัพให้ได้ฮากันแน่นอน

วันนี้ครูยุ้ยกับครูกั๊กได้ไปทัวร์โรงเรียนมาแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนก็ได้เห็นหน้าค่าตาของครูทั้ง 2 คนละ หลังจากนี้ก็จะแวะเข้าไปหาเด็กๆช่วงเค้าพักกลางวันได้ละค่ะ 😀

เสร็จจากทัวร์ ครูยุ้ยกับครูกั๊กก็ไปนั่งรอเด็กๆที่ Bay Centre ค่ะ เพราะวันนี้พี่ๆเด็กโตมีนัดกันกับคุณครูหลังเลิกเรียน เห็นเค้าเลิกเรียนเร็วกันหน่อยวันศุกร์ ครูยุ้ยกับครูกั๊กเลยวางแผนกันว่าจะไปหาอะไรทานกันหน่อย ครูกั๊กเสนอร้านอาหารไทยร้านนึงที่ Downtown ค่ะ ครูยุ้ยกับเด็กๆตกลงกันว่าไปเลยค่าาาครู

เจอกันแล้วเราก็เดินไปที่ร้านอาหารที่ว่านี้กัน พอไปถึง สรุปว่าเค้ายังไม่เปิดค่ะ ครูกั๊กขอโทษครูยุ้ยกับเด็กๆแทบไม่ทันเลยค่ะ เปิดอีกทีก็ประมาณ 5 โงมเย็น ในหัวก็แอบคิด.. เอ๊ มันมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่เคยทานอยู่แถวนี้นี่นา เด็กๆจะอยากทานมั้ยน้า แล้วอยู่ดีๆ น้องพลอยก็เสนอมาว่า ครูกั๊ก.. ไปทานอาหารญี่ปุ่นร้านเดิมกันมั้ยคะ (โดนใจสุดๆค่ะ) เลยหันไปถามทุกคน ทุกคนบอกว่า.. ได้ๆ ไปเลยๆ.. ก็เลยไปทานอาหารญี่ปุ่นกัน ทริปชมซากุระ พร้อมชิมอาหารญี่ปุ่นของครูกั๊กได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันนี้แล้วค่ะ เป็นไปตามที่ครูป้านเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังตอนวันปฐมนิเทศถึงทริปอาหารญี่ปุ่นของครูกั๊กตามนั้นเลยนะคะ 555

อาหารมา ก็ทานกันอย่างมีความสุข แล้วซักพัก น้องจิ๊กซอว์ก็บอกว่า.. หมดนี่แล้ว เดี๋ยวไปต่ออาหารไทยกันค่ะครู ทุกคนมองหน้ากัน แล้วก็บอกว่า.. เอาเลยยยยย ก็รอดูค่ะว่าทานกันหมดแล้วจะสรุปว่ายังไง ก็.. สรุปว่าไปทานอาหารไทยกันต่อจริงๆค่ะ ครูยุ้ยกับครูกั๊กมองหน้ากัน.. เอาเลยค่ะเด็กๆ ไปเลยยย ร้านนี้จัดร้านน่ารัก ได้บรรยากาศไทยๆดีเหมือนกันค่ะ เป็นโอกาสดีของเด็กๆที่ได้สั่งอาหารไทยเป็นภาษาอังกฤษกันค่ะวันนี้ 😀

ส่วนน้องๆที่ยังไม่ได้มาด้วยวันนี้ ครูยุ้ยกับครูกั๊กจะพามาลองทานดูเมื่อโอกาสเป็นใจนะคะ สำหรับพรุ่งนี้.. เราจะไป Beacon Hill Children’s Farm กันค่ะ ยังไงเชิญคุณพ่อคุณแม่ชมรูปของวันนี้ก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้จะ update รูปไปเที่ยวของกรุ๊ปเรามาให้ชมเพิ่มเติมกันอีกค่ะ