KAS BLOG

Archive for April, 2012

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันแรกที่เด็กๆ ได้ใช้เวลาอยู่กับ host family อย่างเต็มที่และเต็มวัน  วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่อากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใสจนชาวกีวีจำนวนมากมายได้ฤกษ์ออกจากบ้านไปทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย  เช่น Pim, Yoohoo & Thank you ได้ไปเล่นด้วยกันที่สนามเด็กเล่นของโรงเรียนใกล้บ้าน Natty Patty  และ Peemchai ได้ไปเที่ยวที่ชายหาดใกล้ Mt.Mauganui   บางบ้านได้ไปเดินรอบเขา Mt. Mauganui บางบ้านได้ออกทะเลไปจับปลา และบางคนก็ได้ความรู้ใหม่ๆ มาฝากครู

Pine: เค้าจับปลาได้เจ็ดตัว แต่สี่ตัวความยาวไม่ถึงสามสิบเซนติเมตรเลยต้องปล่อยไป เราก็เลยได้ปลามาแค่สามตัวครับ

Patty: หนูได้ไปริมทะเล ได้ไปบ้านคุณยาย เก็บหญ้าแห้งจากบ้านคุณยายมาใส่กรง guinea pig ที่บ้านค่ะ

บางคนมีเรื่องงุนงงมาฝากครู

Oaky: ครูบี๋ครับ น้องของคุณพ่อโทรหาครูบี๋หรือยังครับ

ครูบี๋ : คุณอาของ Oaky เหรอคะ

Oaky: ไม่ใช่ครับ เค้าเป็นผู้หญิง

ครูบี๋ : !!!

ในเช้าวันจันทร์..เด็กๆ ชาวกีวีต่างก็ตื่นเต้นที่จะไปโรงเรียนเป็นวันแรกของ Winter term ส่วนเด็กไทยเราตื่นเต้นกว่าเพราะเป็นวันแรกที่จะมีครูและเพื่อนร่วมชั้นเป็นชาวกีวี  ครูบี๋และพี่บูมแยกย้ายกันไปดักรอเด็กๆ ที่ Otumoetai Intermediate School และ Otumoetai College แต่เช้า  เด็กหลายคนสนุกสนานกับการเดินมาโรงเรียน บางคนบ้านใกล้ บางคนบ้านไกล บางคนบุกป่าฝ่าดงมากับลูกๆ ของโฮสท์ หลักฐานที่ปรากฏคือเศษใบไม้บนศีรษะ และรองเท้าที่เปียกปอนปนเศษหญ้าที่ติดมาเป็นกระจุก

บางคนมีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังแต่เช้า…

Pine: เมื่อวาน Jason (ลูกชายวัยรุ่นของ Host family ) เค้าพาผมมาสำรวจโรงเรียนเรียบร้อยแล้วครับ ให้ผมพาทัวร์เลยก็ได้  แล้วเย็นนี้เค้าจะพาผมไปบ้านเพื่อนชื่อ Teddy girl

Poon: เพื่อน หรือ แฟน?

Pine: !!!

ตอนสายทั้งสองโรงเรียนมารวมกันที่ Intermediate School เพื่อชมการแสดงเพลงเมารีของเด็กนักเรียน  แล้วเราก็ได้ทานขนมและเครื่องดื่มร่วมกันกับบัดดี้ห้องเรียน  จากนั้นบัดดี้ของ Intermediate School ก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันด้วยการพาเด็กไทยทัวร์รอบๆ โรงเรียน  แล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้องเรียนตามปรกติ  เด็กๆ เข้ากันได้ดีกับเพื่อนชาวกีวี ครูบี๋นัดให้มาเจอกันบริเวณห้องสมุดในช่วงทานกลางวัน ปรากฏว่าไม่มีใครมาเลย  ครูต้องเดินตามหาจนทั่วโรงเรียน ส่วนทาง College ช่วงเช้ามีคุณครูจากแผนก International พาเด็กๆ ของเราเดินชมภายในโรงเรียน ซึ่งเด็กๆ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหนทางภายในโรงเรียนซับซ้อนมากๆๆๆๆ และช่วงบ่ายเด็กๆ แยกย้ายไปทานอาหารกลางวันกับบัดดี้ของตัวเอง  ตอนเย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้านในวิถีเดิม คือ ทั้งทางเดินเท้า  ขึ้นรถโรงเรียน และที่ผู้ปกครองมารับ

วันนี้อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าแจ่มใส แดดสวยงาม เราไปเที่ยวกันที่ Rotorua ซึ่งห่างจาก Tauranga ประมาณห้าสิบกิโลเมตร  ถนนที่จะไปเมืองนี้ผ่านทุ่งหญ้าเลี้ยงแกะสีเขียวสวย  ผ่านกำแพงสูงของต้นสนที่ยาวเหยียด ทางคดเคี้ยวไปมาเป็นบางช่วงเพราะต้องข้ามเนินเขาและภูเขา จีงใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน เด็กๆ กระตือรือล้นกับการเดินทางพอสมควร แต่ที่ตื่นเต้นกันมากน่าจะเป็นเรื่องของ lunchbox หรือกล่องอาหารกลางวันที่แต่ละบ้านจัดเตรียมมาให้  เราเกทับกันไปมาจนทนไม่ไหวคว้ากล่องอาหารมาเปิดทานกันตั้งแต่สิบเอ็ดโมงเช้า มีการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนขนมกันตลอดเวลา

จุดแรกที่เราได้เข้าชมคือ Agrodome เด็กๆ ตื่นตาตื่นใจกับการโชว์ตัดขนแกะ การใช้สุนัขต้อนฝูงแกะและฝูงเป็ด การป้อนนมแกะและการรีดนมวัว เด็กๆ สนุกสนานกับทุกรายการและหลายคนอาสาขึ้นไปร่วมกิจกรรมบนเวที  Pineได้รับเลือกให้ขึ้นไปแข่งป้อนนมแกะ ดีที่แพ้เพราะไม่งั้นอาจจะได้ขนแกะที่เค้าเพิ่งตัดเป็นรางวัล  ส่วน Tata ก็อาสาขึ้นไปรีดนมวัวและได้รับประกาศนียบัตรมาหนึ่งใบ  เสร็จจากดูโชว์พอมีเวลาเหลือให้ซื้อของที่ระลึก  เด็กๆ ได้โอกาสซื้อผลิตภัณฑ์สารพันจากแกะไปฝากคนที่เมืองไทยกันคนละถุงสองถุง

จากนั้นเราได้ไปที่ Whakarewarewa Thermal Village Tour ได้ชมการแสดง Maori cultural show ซึ่งลีลาการแสดงของชาวเผ่าเมารีก็สนุกสนานถูกใจเด็กๆ  เราได้ลุกขึ้นร่วมทำท่าทางประกอบเพลง action song และถ่ายภาพกับเหล่านักแสดง  ตอนกลางวันเราได้ทานอาหารเมารีที่เค้าใช้การอบด้วยไอร้อนในบ่อน้ำแร่  ที่หมู่บ้านนี้เรายังได้เห็น Mud Pool ที่เป็นบ่อโคลนเดือด  เด็กๆ ได้สัมผัสความร้อนจากบ่อน้ำแร่ที่มีมากมายกระจายไปทั่วหมู่บ้าน ได้เห็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงเป็นระยะๆ และได้เข้าใจในความเป็น The Sulphur City ด้วยกลิ่นและควันที่ชัดเจนมวาก

อีกที่หนึ่งที่เด็กๆ ได้สนุกกันคือที่ Rainbow Spring Nature Park & Kiwi Encounter ที่นี่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์พื้นเมืองของนิวซีแลนด์มากมายหลายชนิด และเมื่อเข้าไปดูนกกีวีซึ่งถือเป็นสัตว์สงวนเพราะใกล้สูญพันธุ์ เราก็โชคดีมากที่ได้เห็นนกกีวีออกมาวิ่งวนเวียนอวดโฉมให้เห็นชัดเจน  ในโซนสุดท้ายที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมใหม่ เด็กๆ ได้มีโอกาสเล่น Big Splash จนตัวเปียกกันเป็นหย่อมๆ แถมยังได้เล่นเครื่องเล่นมากมายหลายอย่างในสนามเด็กเล่นใหม่อีกด้วย

และสุดท้ายเราก็ได้ไปถึงจุดหมายที่ทุกคนรอคอยคือ การขึ้นกระเช้า Gondola Skyline แล้วก็ได้นั่ง Luge ลงจากเขากันคนละสองรอบ  อากาศบนยอดเขาเย็นยะเยือกแต่ทุกคนก็สู้ไม่ถอย ระหว่างที่เล่นก็มีเข้ามารายงานตัวกันเป็นระยะ

May: หนูต้องเอาคืนพวกนั้น (หนุ่มๆ) ให้ได้  เค้าแซงหนูไปได้ยังไง

Win: ตอนนี้เอาขวานมาสับเป็นท่อนมือผมก็คงไม่รู้สึกเจ็บแล้วครับ  มันเย็นจนชาไปหมดแล้ว

PunPun: หนูหลงเข้าไปเลน advance ค่ะ แต่ก็สนุกดีนะคะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

สวัสดีค่ะมาอัพรูปวันแห่งความสุข แต่ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ ขอไปจัดกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางไปฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ในวันพรุ่งนี้ก่อน (April 21) ว่างแล้วจะมาลงรูปต่อทันทีค่ะ