Search
Advertisement
Categories

Archive for May, 2010

Week 3 at Schools 1

เดี๋ยวนี้เด็กๆกินอาหารกลางวันกับเพื่อนที่หน้าห้องเรียนกันแล้วค่ะ

2 สาว ยุ้ย และเฟร์น นี่ป่วยตอนเช้าวันจันทร์  แต่ให้กินยาแล้วก็ดีขึ้นค่ะ ไม่ต้องไปหาหมอ น่าจะเป็นเพราะอากาศเปลี่ยน และน้องแต่งกายไม่อบอุ่นพอ 

หลุยส์นี่่เป็นสุดยอดกีฬาทุกประเภท

ที่ College การถ่ายรูปในห้องเรียนค่อนข้าางทำได้ยาก เพราะประตูห้องเรียนไม่สามารถเปิดจากด้านนอกได้ ต้องให้คนที่อยู่ด้านในเปิด  บางครั้งคุณครูก็มาเปิดให้ บางครั้งนักเรียนก็มาเปิดให้ บางครั้งก็ไม่มีใครมาเปิดให้เลยค่ะ โดยเฉพาะที่อาคาร F, G, H ซึ่งเป็นอาคารเรียนวิชา Maths, Language, Social Study, Business คุณครูกำลังตั้งใจสอน นักเรียนก็กำลังตั้งใจเรียน  เราจะรู้สึกว่าเข้าไปทำลายสมาธิของทุกคน เกรงใจมากๆ สัปดาห์นี้เด็กบางคนได้เวียนมาเรียนที่อาคารอื่น ก็จะสามารถถ่ายรูปมาให้ดูได้บ้างค่ะ

Week 3 has started

เราเริ่มสัปดาห์ที่ 3 ด้วยอุณหภูมิ 7 องศา  เมื่อกี้ครูป้านดูข่าวพยากรณ์อากาศพรุ่งนี้อุณหภูมิต่ำสุด 9 สูงสุด 19 องศา อุ่นขึ้นกว่าวันนี้นิดนึง

เดือนเมษายน เป็นฤดู Autumn ที่อยู่ในช่วงปลาย Summer  คนที่นี่บอกว่าเมษาปีนี้อากาศอบอุ่นกว่าทุกปี  จะเห็นว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเด็กบางคนไม่ใส่เสื้อหนาวตอนกลางวัน เพราะอุณหภูมิประมาณ 20-21 องศา แล้วเด็กๆวิ่งเล่น ไม่อยู่เฉย เลยไม่หนาว แต่เด็กเล็กไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการใส่เสื้อกันหนาว เห็นใส่กันมาทุกวัน จะมีถอดบ้างตอนกลางวันที่อากาศอุ่นขึ้น ต่างกับเด็กโตที่มีหลายคนไม่ใส่เสื้อกันหนาว แถมใส่ขาสั้น และรองเท้าแตะ  ตอนออกจากบ้านเช้านี้  ครูป้านรู้สึกห่วงเด็กโตมาก กลัวจะไม่ใส่เสื้อกันหนาวกันมา เพราะอากาศหนาวมาก บางทีตอนอยู่ในบ้านอาจจะไม่รู้ว่าข้างนอกหนาว พอได้เห็นทุกคนใส่เสื้อกันหนาวก็ค่อยเบาใจ แต่บางคนก็ยังไม่กล้าหยิบเสื้อกันหนาวตัวหนามาใส่  ยุ้ยกับเฟิร์นไม่ค่อยสบาย บอกเมื่อคืนหนาวมาก ยุ้ยมีไข้นิดหน่อย แต่ไม่มีอาการอย่างอื่น ส่วนเฟิร์นก็เจ็บคอแต่ไม่มีไข้ ครูปุ่นให้กินยาและพาไปนอนพักในห้องพยาบาล ช่วงบ่วยก็ดูดีขึ้น

ที่ intermediate วันนี้ครูป้านออกกฎห้ามมานั่งกินข้าวกับเด็กไทยด้วยกัน หลายคนที่่สามารถทำตัวกลมกลืนไปกับเด็กกีวี่ได้เลย แต่ก็มีบางคนที่ยังเก้ๆกังๆอยู่  เห็นคนที่ยังไม่ค่อยมั่นใจก็แอบสงสารอยู่ รู้สึกว่าตัวเองใจร้ายอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องทำ ก็เพื่อความสำเร็จของเด็กๆนั่นแหละค่ะ  เด็กๆที่มาคราวนี้ทุกคนภาษาอังกฤษจัดว่าดีทีเดียว ครูป้านได้รับคำชมจากคุณครูประจำชั้นเสมอๆว่าเด็กไทยกรุ๊ปนี้ภาษาอังกฤษดี  วันก่อนที่ไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ทั้งคนขับ Jet Boat และ นักบินถามกับบาบาร่าว่าเด็กกรุ๊ปนี้มาจากไหน บาบาร่าตอบว่ามาจากเมืองไทย เค้าถามต่อว่าเข้าใจภาษาอังกฤษไม๊ เพราะต้องฟังกฎกติกาต่างๆ บาบาร่าบอก เด็กภาษาอังกฤษดี คุณแจ้งกฎต่างๆกับเด็กได้เลย  นักบินพอรู้ว่าเรามาจากเมืองไทย ก็เล่าใหญ่ว่าไปมาแล้วสามครั้งชอบมากโดยเฉพาะเชียงใหม่

เนื่องจากดู background เรื่องพื้นฐานภาษาอังกฤษของเด็กมาแล้ว ครูป้านจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องจัดชั้นเรียนภาษาอังกฤษให้เด็กมากนัก เพราะจะทำให้เด็กมารวมกลุ่มกับเด็กไทยมากเกินไป  แต่การทำเช่นนี้ก็จะสร้างแรงกดดันให้เด็กพอควร เพราะต้องเรียนและใช้ชีวิตเหมือนเด็กที่นี่เลย  เด็กบางคนที่เคยมากับ KAS ในทริปก่อนก็อาจจะรู้สึกแปลกๆที่คราวนี้แทบไม่มีเวลาได้เรียนกับเด็กไทยด้วยกันเลย บางทีก็มีบ่นบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเด็กๆก็ปรับตัวได้ และประโยชน์ก็ตกอยู่ที่ตัวเด็กๆเอง

เย็นนี้ครูป้านพาไปเล่นโบว์ลิ่ง ตามที่สัญญากันไว้  ครูป้านจ่ายให้ 2 เกม ยุ้ยกับเฟิร์นต้องรีบหายป่วย เพราะกลัวพลาดโบว์ลิ่งเย็นนี้ เด็กโตเดินมารวมกันที่ intermediate ทุกคนมาพร้อมเราก็ออกเดินทางไปป้ายรถเมล์ที่ ถนน Matua ระยะทางที่ต้องเดินไปนั้นไกลพอควร ประมาณ 1.5 กม. ครูป้านแจ้งระยะทางให้เด็ฏๆทราบ และบอกว่าถ้าใครไม่อยากเดินอนุญาติให้กลับบ้านได้ (โหด) ไม่มีใครกลับบ้านค่ะ ตั้งหน้าตั้งเดินไม่มีใครบ่น  คือถ้าเราขึ้นป้ายหน้าโรงเรียนต้องขึ้น 2 ต่อ เปลืองเงิน และเสียเวลา เพราะรถวิ่งอ้อม 

เราใช้เวลาไม่นานก็ถึงปลายทาง ป้ายรถเมล์ที่นี่อยู่ห่างกันมากค่ะ ไม่ถี่เหมือนบ้านเรา พอลงรถเราก็ต้องเดินไปโบว์ลิ่งอีกสัก 400 เมตร  ถึงโบว์ลิ่งเด็กๆ ไม่รอช้ารีบจัดทีม และเบิกรองเท้ากัน

เรานัดโฮสต์ให้มารับตอนหกโมงเย็น  ประมาณ 17:45 โฮสต์ก็เริ่มทยอยมา บรรยากาศชื่นมื่นมากเย็นนี้

  ทีมแรก เลน 3 = เอ๊๋ยว โอม ตูน ต้นไทร ฟัดจี้

 ทีมสอง เลน 4 = แสตมป์ นุ่น หลุยส์ เอ็นดู มิ๊นท์ พราว เพชรเล็ก

 ทีมสาม เลน 5 = แบมบี้ คะน้า น้ำผึ้ง แนนซี่ ครูปุ่น ครูป้าน

 ทีมสุดท้าย เลน 6 = เพชรใหญ่ ฟลุค เบน ยุ้ย เฟิร์น วิน

 ขออุบไว้ก่อนว่าทีมไหนชนะเลิศ ครูป้านจะประกาศทีเดียววันเสาร์นี้บนรถโคชที่เราจะไปเที่ยวโรโตรัวกัน ตอนนั้นทุกคนจะอยู่พร้อมเพรียงกันหมด และมีไมโครโฟนด้วยค่ะ  รอลุ้นนะคะ!!

เด็กโตมาเจอกันที่ intermediate

คุณนายละเอียดตรวจนับเงินทอน ที่คนขับรถเมล์ทอนมาให้ ไม่รู้นิ้วมือที่มีอยู่จะพอนับหรือเปล่า

ไม่รู้เสี่ยตูนจะเล่นกายกรรม หรือเล่นโบวลิ่งกันแน่

ลีลาเหลือร้าย ลูกใครดูกันเอง

หลังจากล้างท่อมานาน คราวนี้แนนซี่ strike ดีใจสุดๆ

ท่าทางโอมกับเอี๋ยว จะเมา Fish & Chip

ภาพนี้ เหมือนคนนึงโกรธ อีกคนนึง งอนง้อ

เพชรเล็ก โกรธเคืองอะไรครูป้าน ก็ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้

ทีมนี้เล่นเสร็จช้าที่สุด เพราะมัวแต่ห่วงกิน โฮสต์มารับแล้วยังเล่นไม่จบเกมเลย

ลุ้นคะแนนกันใหญ่

สามคนนี้ ชี้ไปที่ต้นไทร และเสียงที่ออกจากปากคือ “โกง”

เฟิร์น จับกบ ตัวโตๆ

รูปนี้ขาดฟลุคกับเฟิร์น เพราะออกไป supermarket ข้างนอก

Sat 1 May 2010 Comvita Honey Factory, Jet Boat & Kiwi 360

วันนี้น่าจะเป็นวันที่สนุกที่สุดตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ตอนเช้ามีสายรุ้งอันโต มองเห็นได้ชัดเจน  บาบาร่าจึงบอกว่าวันนี้ฝนอาจจะตก  เรานัดเจอกันที่โรงเรียนเหมือนเดิม รถบัสยังไม่ทันออก ฝนก็ตกเป็นเม็ดฝอยๆ อากาศเลยเย็นมากทีเดียว เราออกเดินทางจากโรงเรียนตอนแปดโมงครึ่ง ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง Comvita Honey Factory พอไปถึงเด็กๆก็กิน morning tea กันก่อนเลย (เข้าข่ายกองทัพเดินด้วยท้องจริงๆ)  เมื่อเข้าไปภายใน Comvita วิทยากรมาต้อนรับและแจกไอศรีมรสน้ำผึ้งก่อนเลย เด็กๆหน้าบาน ก็ของชอบนี่ บอกอร่อยกันทุกคน จากนั้นก็ชมภาพยนต์เกี่ยวกับการผลิตน้ำผึ้ง เด็กๆให้ความสนใจกันดี เสร็จแล้ววิทยากรพาชมรังผึ้งของจริงที่มีราชินีผึ้งอยู่ด้วย  แต่ไม่ได้เข้าไปชมในฟาร์มจริงๆหรอกค่ะ เพราะอันตรายเกินไป  ท้ายสุดเด็กๆก็ชิมน้ำผึ้งชนิดต่างๆ แล้วก็เลือกซื้อกลับเมืองไทยกัน

ที่ต่อมาคือ Jet Boat ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Comvita โชคดีที่ฝนหยุดตกแล้ว  (แต่อากาศก็ยังเย็นพอควร เพราะไม่มีแดด)  พอมาถึงที่นี่ก็ทานอาหารกลางวัน ที่เตรียมมากันก่อนเลย จากนั้นก็ขึ้นรถบรรทุกสีเหลืองๆที่มีที่นั่ง 2 แถวไปยังแม่น้ำ Jet Boat ลำนึงจุได้สิบกว่าคน เราจึงแบ่งกันไป 2 เที่ยว  คนขับเรือตัวโตกล้ามใหญ่ดูแข็งแรงมาก ที่สำคัญหล่อด้วย  ครูป้านไปกับเด็กๆรอบแรก เราจัดแจงใส่เสื้อชูชีพกัน แล้วก็ไปลงเรือ คนขับแจ้งกฏต่างๆให้ทราบ  คนขับเรือขับผาดโผนฉวัดเฉวียน พวกเรากรี๊ดกันสนั่นหวั่นไหว  สนุกกันสุดๆ เมื่อคนขับให้สัญญาณมือเอานิ้วชี้ขึ้นบนและหมุนๆมือ หมายถึง เรือกำลังจะหมุนแบบ 360 องศา  โห!! มันสุดๆ เสียงเด็กๆบอก Spin Spin!!! ให้หมุนอีก หมุนอีก ยุ้ยตะโกนบอก ครูป้านกรี๊ดเลย กรี๊ดเลย โถ่ยุ้ย!! ครูป้านน่ะกรี๊ดไปเยอะแล้ว แต่น้ำกระเด็นเข้าปากไปเยอะเหมือนกัน เลยต้องยั้งๆไว้บ้าง  ระยะทางที่เรือวิ่งก็หลายกิโลอยู่ค่ะ คุ้มเลย น่าจะเรียกว่า Jet Boat 360 มากกว่า จุดที่ครูป้านนั่ง เปียกมากที่สุด พอกลุ่มแรกกลับมา กลุ่มที่สองก็เตรียมลงเรือ สอบถามกันใหญ่ว่ามันไม๊ ???  ครูป้านแจ้งให้ครูปุ่นนั่งตรงจุดที่เปียกที่สุดเหมือนที่ครูป้านนั่ง ตอนที่เรือออกรอบสองแดดเริ่มออกแล้ว  ระหว่างรอ ครูป้านเลยไปยืนตากแดดให้ตัวแห้ง เด็กบางคนก็เปียกนิดหน่อย บางคนก็ไม่เปียก

ที่นี่เค้ามีบริการนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมวิวด้วย แล้ววันนี้เป็นวันเดียวที่มีโปรโมชั่นจ่ายเพียง 30 ดอลล่า เท่านั้น บาบาร่ากับโมนิก้ามาถามครูป้านว่าเด็กๆอยากเล่นไม๊  ครูป้านเลยไปถามเด็กๆ ปรากฏว่าอยากเล่นกันเกือบทุกคน โห ตื่นเต้นกันสุดๆ  ปรากฎว่าพอเล่นกันเยอะ เวลาจะไม่ทัน เพราะเราจอง Kiwi 360 ไว้ เลยต้องไป Kiwi 360 ก่อน เด็กๆโวยใหญ่ ครูป้านบอกใจเย็นๆ เดี๋ยวกำลังพยายามหาทางให้อยู่  หลังจากคุยกับบาบาร่า โมนิก้า และที่สำคัญที่สุดคนขับรถ  คนขับรถยอมกลับมาที่ เฮลิคอปเตอร์ หลังจากเสร็จภาระกิจที่ Kiwi 360 แล้ว ใจดีมาก ไม่บ่อยหรอกนะคะที่ฝรั่งจะ offer อะไรพิเศษๆนอกเหนือตารางที่กำหนดไว้

ที่ Kiwi 360 เรานั่ง Kiwi Cart ชมสวนกีวี่กัน ลูกกีวี่ห้อยระโยงระยาง เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของเด็กๆ  เด็กๆประทับใจกับสวนกีวี่มาก จากนั้นก็แวะร้านของที่ระลึก มีกีวี่ให้ชิมฟรี มีของน่าซื้อเยอะเหมือนกัน ครูป้านยังไม่ได้กินอาหารกลางวัน จึงไปสั่งอาหารที่ Cafe เด็กๆหลายคนเห็นครูป้านนั่งกิน พลอยสั่งอาหารตามกันหลายคน เสี่ยตูนนี่สั่งคนเดียว 2 อย่าง จานใหญ่ๆ ทั้งนั้น ทั้งๆที่พึ่งกินอาหารกลางวันไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง  น่ากลัวจะอ้วนขึ้นมากๆๆๆๆ

เราได้กลับไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์อีกสมใจ  มีสามคนไม่ขึ้นคอปเตอร์แต่ติดใจนั่ง Jet Boat รอบสอง คือ หลุยส์ ต้นไทร ตูน นอกนั้นขึ้นคอปเตอร์กันเกือบหมด เหลือ เอ็นดู กับ แบมบี้ ที่ไม่เล่นอะไรเพิ่ม เสี่ยตูนเล่นทั้งคอปเตอร์และ Jet Boat  การเล่นเพิ่มเด็กๆต้องจ่ายเงินเอง รายการละ 30 ดอลล่า โอมกับเอี๋ยวที่ไม่นั่ง Jet Boat ได้ขึ้นคอปเตอร์แทนโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

มีเด็กบางคนบ่นหิว ขากลับเลยแวะ Fashion Island ให้ซื้ออาหารแก้หิวไปก่อน ใครที่ไม่หิว ก็เดินเล่นชมร้านรวงต่างๆ เสี่ยตูนไม่พลาดสั่งแมคโดนัลมากินอีก ขนมที่ครูป้านเตรียมมาก็ไม่น้อย และไม่เหลือกลับไป เด็กๆกินเรียบ บาบาร่าและโมนิก้างงมาก บอกทำไมเด็กเรากินตลอดเวลาแบบนี้ เด็กโตรู้วิธีการเซฟเงิน จะกินอาหารที่โฮสต์ให้มาเท่านั้น ไม่ค่อยซื้ออะไรกินฟุ่มเฟือยมากนัก ถ้าซื้อก็นิดๆหน่อยๆ ยกเว้นไอศครีม ที่ไม่ค่อยถูกกัน เห็นแล้วต้องกินทันที แบบทำใจไม่ได้

ภาพสายรุ้งทอดยาวยามเช้า ราวกับว่ารออรุณสวัสดิ์พวกเราทุกคน

วันนี้เป็นวันเกิดมิ๊นท์ พวกเราร้องเพลง Happy Birthday ให้กับมิ๊นท์กันบนรถ และครูป้านมอบของขวัญวันเกิดให้กับมิ๊นท์ สุขสันต์วันเกิดวันเกิดนะคะมิ๊นท์ ครูป้านเชื่อว่าจะเป็นวันเกิดที่มิ๊นท์ไม่มีวันลืม หลังจากนี้วันที่ 9 และ 12 ยังเป็นวันเกิด เพชรเล็กและเอี๋ยวตามลำดับ ครูป้านสั่งเค้กวันเกิดไว้แล้ว  รอเป่าเค้กพร้อมกันวันที่ 12 ที่ Waimarino นะคะ

ป้ายหน้าห้องน้ำที่ Comvita Honey Factory

เอาไอศรีมรสน้ำผึ้งมาล่อเด็กๆ ก่อนจะให้เรียนรู้วงจรชีวิตของผึ้ง และการผลิตน้ำผึ้ง

ตั้งอกตั้งใจชมวิดีทัศน์

เรื่องชิมฟรี เราไม่เคยพลาด

เดือนเมษายนและพฤษภาคม เป็นฤดูเก็บเกี่ยวกีวี่ฟรุตพอดี  เราเลยโชคดีได้เห็นกีวี่ระโยงระยางเต็มไปหมดแบบนี้  เมื่อเก็บเกี่ยวกีวี่แล้ว เค้าจะนำไปแช่เย็นไว้ ที่อุณหภูมิ 12 องศา ก่อนที่จะส่งออกไปจำหน่าย

มิ๊นท์ท่าทางจะครั่งไคร้กีวี่ฟรุตเอามาก ถามครูป้านว่า มีน้ำหอมกลิ่นกีวี่ขายไม๊คะ

รูปนี้ แนนซี่ เหมือนหนูแฮมสเตอร์มาเจอะกีวี่

ดีใจจัง หมอนุ่น (กีวี่บน) ยอมให้ถ่ายรูปแล้ว ที่เรียกว่า “หมอนุ่น” เพราะเธอตั้งใจเรียน และก็เรียนเก่งมาก แถมเป็นจอมวางแผน นุ่นบอกอนาคตอยากเป็นหมอ ครูป้านเชื่อว่า อนาคตประเทศไทยมีหมอเพิ่มอีกคนแน่นอน (สวยด้วย)

ส่วนแสตมป์ (กีวี่ล่าง) อยากเรียนวิศวะ รับรองว่าประเทศไทยมีวิศวกรหญิงที่เก่งมากเพิ่มอีกคนแน่นอนเช่นกัน  2 คนนี้ชอบพูดอะไรตามหลัก ฟิสิก หรือ หลักความเป็นไปได้เสมอ เช่น ตอนที่ครูป้านเดินลองกลิ่นน้ำหอมกับนุ่น ลองไปลองมา ลืมว่ายี่ห้อนี้ฉีดที่มือไหน นุ่นบอกครูป้านลองยี่ห้อนี้เป็นขวดแรก ครูป้านถนัดขวาแสดงว่าต้องใข้มือขวาฉีดน้ำหอมที่มือซ้าย

แสตมป์อยู่บ้านเดียวกับเอ็นดูซึ่งเป็นเด็กซนๆสนุกสนานเฮฮา เวลาแสตมป์พูดอะไรเป็นทฤษฎี เอ็นดูจะบ่น “ขอร้องเลยแสตมป์ อย่าพูดเรื่องทฤษฎี”

ที่เพชรชี้อยู่คือกองขี้นก ที่ทำให้ความรักของพวกเรามีอุปสรรค ไม่สามารถนั่งใกล้กันได้

กลับถึงหน้าโรงเรียน ตอนหกโมงเย็น ระหว่างรอโฮสต์มารับนี่ บรรยากาศช่างคึกคักจริงๆ

แสงบนท้องฟ้ากำลังสวย ครูป้านขอให้ครูปุ่นถ่ายรูปเดี่ยวให้ แต่ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ  พวกหน้าทะเล้นทั้งหลายตามก่อกวนครูป้านไม่เลิก  เรื่องถ่ายเดี่ยวนี่หมดหวังไปเลย