Search
Advertisement
Categories

Archive for April, 2010

วันที่สองของการผจยภัยในโอ้คแลนด์

17 April 2010  เช้านี้ ครูป้านกับครูปุ่นไม่อยากให้เด็กๆต้องตื่นเช้ามาก เลยตัดสินใจเดินไป Queen Street เพื่อไปซื้ออาหารเช้าที่แมคโดนัลให้เด็กๆแต่เช้า อาหารเช้าก็มี Sausage Muffin / Kiwi Big Breakfast + Yogurt Crunchy เราออกเดินทางกันตอนเก้าโมงเช้า เริ่มที่ Kelly Tarlton Underwater World ไฮไลท์ของที่นี่คือการนั่งรถชมความน่ารักของเพ็นกวินอย่างใกล้ชิด ออกจาก Kelly Tarlton สิบเอ็ดโมง ต่อด้วยสวนสนุก Rainbow End เราทานอาหารกลางวันกันที่สวนสนุก  เด็กๆหลายคนไปเล่นตู้หยอดเหรียญที่มันจะหยิบตุ๊กตาขึ้นมา หลายคนได้ตุ๊กตา ที่จำได้มีโอม เอ็นดู ฟลุ้ค  ฟลุ้คนั้นได้ Teddy Bear ตัวใหญ่มาก เดินกอดตุ๊กตาหมี น่ารักน่าเอ็นดู สงสัยขากลับต้องซื้อตั๋วเครื่องบินอีก 1 ที่ ให้น้องหมีด้วย ออกจากสวนสนุกตอนสี่โมงเย็น  ครูป้านพาเด็กๆแวะ Count Down Supermarket  กลับถึงที่พักจริงๆเกือบหกโมงเย็น  พอกลับถึงที่พัก เพชรใหญ่ เบน ฟลุ้ค เฟิร์น ยุ้ย ขออนุญาตไปซื้ออาหารทานเองข้างนอก  ครูป้านอนุญาตให้ไปได้โดยให้กลับมาไม่เกินสองทุ่ม  แต่เด็กๆไปแป๊บเดียวก็กลับมา  คุยโวว่าว่าเจอร้านอาหารจีน ได้ข้าวผัดมาหลายกล่อง ส่วนเด็กคนอื่นๆสั่งพิซซ่ามากินกันในที่พัก  ร้านพิซซ่าบอก 30 นาทีได้รับ  กว่าจะมาจริงๆชั่วโมงกว่า  เด็กๆหิ้วท้องคอย บ่นกันอุบ น่าสงสารจริงๆ สุดท้ายก็ Happy Ending ได้กินพิซซ่าอร่อยสมใจ

เห็นวิว Sky Tower ไกลๆอยู่ด้านหลัง

Kelly Tarlton Under Water World

นั่งรถชมความน่ารักของเพ็นกวินอย่างใกล้ชิด

สะพานด้านหน้า Kelly Tarlton

สวนสนุก Rainbow's End

ฟลุ๊คเล่นตู้เกมได้น้องหมีตัวโตมากอดไว้ข้างกายตลอดเวลา เป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ

ตะลุยโอ้คแลนด์

สวัสดีค่ะ  สัปดาห์นี้เด็กเริ่ม settle กันแล้ว ครูป้านเลยได้เริ่มเขียน blog สักที

จากสนามบินสุวรรณภูมิมาที่โอคแลนด์เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง ครูป้านเริ่มไล่ให้เด็กๆเลิกดูหนังเล่นเกมตอนสี่ทุ่มครึ่ง เพราะกลัวจะพักผ่อนไม่พอและไม่สบายในวันรุ่งขึ้น กว่าจะนอนกันจริงๆก้ห้าทุ่มกว่า  สามหนุ่มเพชรใหญ่ เบน ฟลุ้ค ดูเหมือนจะนอนไม่ค่อยหลับ

16 April 2010

มาถึงสนามลินโอคแลนด์สิบเอ็ดโมงกว่า ครูป้านมีการซักซ้อมเด็กเรื่องการตอบคำถามต่างๆตอนผ่าน Immigration และ Custom  เด็กๆตื่นเต้นกันใหญ่จำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อโรงเรียน สุดท้ายการผ่าน Immigration และ Custom ก็เป็นไปอย่างราบรื่น  เจ้าหน้าที่จากบริษัททัวร์มารับเราตามที่นัดหมาย  ครูป้านถามเด็กๆว่าอยากไปเดินที่ Queen street เลยหรืออยากพักผ่อนก่อน  คำตอบที่ได้รับเป็นไปตามความคาดหมาย ทุกคนอยากออกไปข้างนอก ครูป้านให้เวลาเด็กๆจัดการนำกระเป๋าเดินทางเข้าห้องพัก ล้างหน้า ล้างตา 30 นาที จากนั้นก็ออกไป Queen Street กัน แวะกินแมคโดนัลเป็นมื้อแรก แล้วก็เดินดูร้านรวงต่างๆไปเรื่อยๆ  ปิดท้ายกันที่ Sky Tower ตอนสักหกโมงเย็น พวกเราแบ่งกันเป็นสองกลุ่มขึ้นลิฟท์คนละอันกัน พอลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นสูงๆ จะมีช่องกระจกให้เห็นด้านนอก หวาดเสียวมาก พอถึงชั้นบนสุด  เด็กๆก็วี๊ดว๊าดกันถึงความหวาดเสียวและวิวที่สวยงามจากที่สูง  ตัวครูป้านเองไม่อยากจะบอกว่าตอนเดินออกจากลิฟท์แทบจะก้าวขาไม่ออกเลย หวาดเสียวสุดๆ บน Sky Tower มีทางเดินเป็นช่องกระจกใสมองเห็นทะลุปรุโปร่งไปถึงด้านล่าง มีป้ายเขียนว่ากระจกนี้มีความแข็งแรงเท่าคอนกรีต เด็กที่มีความกล้าก็ทดลองเดินกัน ชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำกันพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลากลับที่พัก ซึ่งห่างจาก Sky Tower เพียงแค่ 2 block

ตอนเดินที่ Queen Street เด็กๆดูเหมือนเหนื่อยอ่อน แต่พอถึงที่พักก็คึกคักกันใหญ่ เล่นกัน คุยกันเสียงอึกทึกครึกโครม ตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกมาพักที่นี่ เพราะมีห้องนั่งเล่นให้เด็กๆมานั่งคุยกันได้ เด็กโตส่วนมากมารวมกันเล่นและคุยอยู่ห้องเดียวกันอัดแน่นไปหมด กระทั่งมีอุบัติเหตุอันแรกเกิดขึ้น ยุ้ยวิ่งไล่กับเพื่อนเซไปนั่งบนชั้นวางของข้างหัวเตียงที่แขวนติดผนังไว้ หลุดลงมาทั้งยวง ตรงส่วนที่ล็อคกับผนังเป็นรูโบ๋เลย  น้องตกใจหน้าซีด ครูป้านไปแจ้งที่ Reception แต่เนื่างจากเป็น Apartment Hotel จึงไม่มีช่างประจำ เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่าต้องรอจนกว่าจะถึงวันที่ช่างเข้ามาจึงจะทราบว่าซ่อมได้หรือไม่และมีค่าเสียหายไม๊ ครูป้านจ่ายมัดจำประกันความเสียหายไว้ด้วยบัตรเครดิตห้องละ 200$ ถ้ามีค่าเสียหายเค้าจะแจ้งให้ทราบและหักจากเงินมัดจำ จนถึงวันนี้เค้าก็ไม่ได้แจ้งอะไรมา คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

Sky City Tower

จุดเริ่มต้นของการเดินทาง