Search
Advertisement
Categories

Archive for the ‘AUSTRALIA 2009’ Category

ชีวิตเด็กมัธยม

ปกติครูป้านจะไม่ค่อยมีรูปฝั่งมัธยมเท่าไหร่ ส่วนมากที่ถ่ายไว้จะเป็นตอนที่เจอกันตอนเช้าก่อนโรงเรียนเข้า กับหลังเลิกเรียน และตอนเรียนภาษาอังกฤษกับ Mrs. Woodโรงเรียนมัธยมใหญ่มากค่ะ ไปทีไรก็หลงทุกทีขนาดว่ากาง Map อ่าน  บางทีเด็กฝรั่งเห็นเงอะๆงะๆก็เข้ามาถามประมาณว่า ป้าๆมีไรให้ช่วยไม๊ หลงทางหรือเปล่า เด็กเราเองทุกวันนี้ก็ยังหลงทางอยู่เลย

ฝั่งมัธยมมีอาคารเรียนเยอะมาก รูปที่ถ่ายมานี่เป็นแค่บางส่วนเท่านั้นนะคะ  ในแต่ละอาคารก็จะมีห้องเรียนมากมาย  เวลาเรียนจะปิดประตูห้องเรียน บางอาคารเป็นประตูเหล็กทึบๆ มองไม่เห็นข้างใน  เวลาจะเข้าไปถ่ายรูปต้องเคาะประตูและขออนุญาตคุณครู ทุกคนที่กำลังเรียนอยู่ก็จะหันมามองกันหมด  บางทีเปิดประตูมา อ้าวเคาะผิดห้อง โธ่ถัง!!

แสตมป์บอกให้ครูป้านมาถ่ายตอนชั่วโมงคณิตศาสตร์เพราะทำคะแนนได้ดี แต่ห้ามถ่ายตอน Science เพราะนั่งหลับ

โม..เวลาครูป้านไปถ่ายรูปก็จะอายๆตามสไตล์โม  เห็นขี้อายแบบนี้ แต่มั่นใจน๊า วันก่อนไม่ได้มาเรียนอังกฤษกับ Mrs. Wood แต่ไปเรียนกับบัดดี้แทน บอกวันนี้มีเรียนวิชาที่ชอบ ใครไม่ไปก็อย่าไป โมไม่สน

ส่วนแพรว คยั้นคยอให้ครูป้านไปถ่ายในชั่วโมงภาษาญี่ปุ่น ไม่รู้มีอะไร  สงสัยไปแอบปิ๊งใครอยู่  บอกมาซะดีๆ แพรว

เล่าสู่กันฟัง 7 (ต่อ) เรื่องกินล้วนๆ

ขอเม๊าเรื่องกินต่อหน่อยเถอะค่ะ  ปริมเนี่ยเป็นแฟนรายการ “เก็บตก” คือใครกินเหลือปริมกวาดเรียบ เห็น Lunch box ที่อยู่ในมือเธอไม๊คะ  จริงๆแล้วเป็นของเบลที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอเนียนมาก

โฮสต์โอมให้นมกล่องมา ด้วยความหวังดีโฮสต์จึงแช่แข็งมาจากบ้าน กะว่าพอตอนกลางวันน้ำแข็งละลายพอดี โอมก็ได้กินนมเย็นๆ ปรากฏว่าถึงตอนกลางวันนมยังเป็นน้ำแข็งอยู่ โอมจึงเอาไปวางตากแดด ครูป้านกระเซ้าว่าระวังจะหายนะ โอมเลยลงทุนนั่งตากแดดเฝ้านม กว่าจะได้กินคงตัวดำเหมือนนมรสชอคโกแลตนั่นแหละ

ครูป้่านถ่ายรูปของโปรดของเด็กๆมาให้ดู หาซื้อได้ที่ Tuckshop อันแรกซ้ายสุด เด็กๆเรียก “น้ำหร่อย”  ขวดถัดมา “น้ำเล่น”  ถัดมาอีกเรียก “อาหารหมา”  อันสุดท้ายคือ “อาหารไก่” เจ้าอาหารไก่ซองเหลืองนี่ จริงๆเรียก Chicken Chippyเป็นไก่ทอดอร่อยดีค่ะ ถุงละ 2.5 AUD

ส่วนเจ้าเครื่องดื่มกล่องนี้ เราเรียกว่า “ปริม” (ที่จริงตรงที่นิ้วบังอยู่มีตัว a อีกตัวค่ะ)

เล่าสู่กันฟัง 6

ครูป้านขอเริ่มต้นด้วยเรื่องของแบมบี้น้องน้อยคนสุดท้องของพวกเรา เนื่องจากไม่ได้เจอกัน 2 วันตอน Long weekend แบมบี้จึงมีอาการคิดถึงบ้านประกอบกับวันนั้นบัดดี้ไม่มาโรงเรียน คุณครูประจำชั้นน่ารักมากค่ะ  พอครูป้านเดินผ่านก็เรียกมาคุยบอกวันนี้ Bambi is not happy ครูป้านก็อธิบายเหตุผลให้คุณครูทราบ  และเข้าไปนั่งเรียนกับแบมบี้ตลอดบ่ายวันนั้น  คุณครูประจำำชั้นพยายามช่วยทำให้แบมบี้คลายความคิดถึงด้วยการให้แบมบี้สอนเพื่อนๆและคุณครูเล่นเกมแบบที่ต้องทำมือแบบนู้นแบบนี้เปลี่ยนไปเรื่อยๆแล้ว ก็ร้องเพลงประกอบ การทำมือนั้นเหมือนกับของออสเตรเลียเลยค่ะ ต่างกันตรงที่คนละภาษา  แบมบี้ร้องเพลงภาษาไทยเสียงเจื้อยแจ้วน่ารักมาก เนื้อเพลงก็ตลกดี  แบมบี้บอกทุกคนว่าของไทยต้องปิดท้ายด้วยการเป่ายิ้งฉุบ  คุณครูถามว่าเป่ายิ้งฉุบภาษาไทยพูดยังไง  แบมบี้ไม่รีรอรีบอธิบายต่อ  จากนั้นแบมบี้ก็โชว์การเล่นจีจ่อเจี๊ยบอีก 1 อย่าง

ฟ้าให้คุณป้าที่พึ่งมาจากเมืองไทยเอาหนังยางมาให้  ฟ้าจัดการร้อยหนังยางและนำมาเล่นที่โรงเรียน  เด็กฝรั่งมาลุมล้อมดูกันใหญ่  ถ้าพวกเราเล่นกันเอง อย่าหวังเลยว่าจะให้เด็กฝรั่งเล่นด้วย พวกเรากั๊กสุดๆ  สิชากับฟ้าโชว์ลีลากระโดดหนังยางเหนือชั้นกว่าใคร ส่วนปริมกับแพรวที่่เล่นไม่ค่อยเป็นก็พยายามกันจัง ล้มลุกคลุกคลาน  เด็กฝรั่งพอยืนดูนานๆ ก็อยากเล่นบ้าง แกล้งวิ่งเข้ามาแบบนินจา ก็โดนพวกเราไล่ออกไป

ในชั่วโมงพละฟ้าเอาหนังยางเล่นกับเพื่อนๆฝรั่ง  เพื่อนๆตื่นเต้นกันใหญ่ไปตามครูมาดู  เด็กที่นี่ถามว่าใช้เวลาร้อยหนังยางนานแค่ไหน ฟ้าตอบว่าแค่ 1 ชั่วโมง ก็ฮือฮากันใหญ่  ขอให้ฟ้าทำให้บ้าง  ส่วนน้ำผึ้งไม่รู้สอนเพื่อนยังไงกลายเป็นเล่นลอดหนังยางแทน

หลุยส์สนุกกับการเล่นบาสเก็ตบอลในชั่วโมงพละมาก  ตอนนี้หยกไม่กลัวตัวดำเหมือนตอนมาใหม่ๆแล้ว เรียนพละหมวกก็ไม่ใส่ บอกทาครีมกันแดดแล้ว   ส่วนหลุยส์เล่นบาสเก็ตบอลเสร็จเดินหน้าดำเมี่ยมมาเลย  ครูป้านขอถ่ายรูปรีบเอามือปิดหน้า

ครูป้านขอถ่ายรูปโอมกับปริมกับพวกเด็กผู้ชายในชั้นเรียน  พอครูป้านบอก Silly Shot เท่านั้นแหละ  ดูรูปเอาเองแล้วกันค่ะ

โรงเรียนที่นิวซีแลนด์กับออสเตรเลียเหมือนกันเรื่องให้เด็กเอากระเป๋าไว้นอกห้องเรียนค่ะ จะใช้อะไรก็หยิบไปให้พร้อม

เย็นวันนี้ครูป้านพาต้นไทรไปช้อปปิ้งตามสัญญา  เพราะโฮสต์ต้นไทรไม่ได้พาไปช้อปปิ้ง หลังเลิกเรียนพอดีเจอแพรวกับปริม ครูป้านเลยแอบกระซิบว่าถ้าอยากไปช้อปปิ้ง ให้ขออนุญาตโฮสต์ครูป้านขอไปด้วย  วิกกี้ตกลง เลยได้ไป Toy World ด้วยกัน  ทั้ง 3 คนนี้อยากไปดู Ripstik  ต้นไทรเลยโชคดีมีพี่ 2 คนนี้ช่วยแนะนำในการเลือกซื้อ (หรือโชคร้ายก็ไ่ม่รู้) ต้นไทรซื้อ Ripstik เป็นคนที่ 2 ต่อจากสิชา  นี่แหละค่ะหน้ตาเจ้า Ripstck ราคา 150 AUD  ส่วนปริมกับแพรวนี่ไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ แค่มาชม (และสร้างความปั่นป่วน!!)  แถมพวกเรายังไปเจอป๊อปโดยบังเอิญ  ป๊อปบ่นว่าของแพง  ดีแล้วป๊อป แพงก็ไม่ต้องซื้อ


วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ี้เป็นวันแม่  ที่โรงเรียนมีการตั้งโต๊ะขายของขวัญวันแม่ เด็กๆทยอยกันมาซื้อ  เบลไม่พลาดค่ะ มา่ซื้อคุกกี้ 1 กล่องให้ Host mother  เบลเป็นเด็กที่ดูภายนอกห้าวๆ แต่เวลาไปไหนซื้อของฝากโฮสต์เสมอๆค่ะ น่ารักมาก เมื่อเรามีน้ำใจกับเค้า เค้าก็มีน้ำใจกับเราค่ะ เค้ารักกันมาก (น่าหมั่นไส้..อิอิ)

ถ้าครูป้านขาดรูปใครไปบ้างต้องขอโทษจริงๆค่ะ ครูป้านเดินถ่ายรูปทุกห้องและทั้งวันค่ะ  แต่บางทีมุมห้องหรือโอกาสไม่ได้ ก็จะไม่ได้ถ่าย เกรงว่าจะเป็นการรบกวนการเรียนของเด็กๆค่ะ