Archive for the ‘NZ Education Experience 2010’ Category
อำลาโอ้คแลนด์
18 April 2010
เช้านี้ครูป้านสั่งข้าวผัดให้เด็กๆทานเป็นอาหารเช้า สั่งจากร้านอาหารจีนไว้ตอนสี่ทุ่ม ในห้องพักมี Microwave เช้าก็อุ่นทานกัน เรา check out ตอนแปดโมงครึ่ง เริ่มต้นที่ Mt. Eden (ฝรั่งออกเสียงติดๆกันว่า “เม๊าทีเดน”) ตอนรถขึ้นเขา เห็นคนวิ่งออกกำลังขึ้นยอดเขาเต็มไปหมดเพราะเป็นวันอาทิตย์ คนนิวซีแลนด์นี่แข็งแรงจริงๆ ความสูงของ mt. Eden พอๆกับ Sky Tower แต่ตอนนี้เป็นววิวยามเช้ามาก สวยและสดชื่อมาก ได้สูดอากาศบริสุทธ์ ไม่อยู่ในห้องกระจกเหมือน Sky Tower อากาศบนยอดเขายามเช้าหนาวเอาการอยู่
ที่นี่มองเห็นวิวแบบ 360 องศา เห็น Sky Tower และ Harbour Bridge ด้วย เด็กๆวิ๊วว๊าวกันใหญ่ ยิ่งรู้ว่า Mt. Eden เป็นภูเขาไฟยิ่งตื่นเต้น บอกไม่เคยเห็นปากปล่องภูเขาไฟมาก่อนเลย (ไม่ระเบิดเหมือนที่อังกฤษนะคะ) เด็กๆเดินเล่นและถ่ายรูปกันจนลืมเวลา ต้องไปตามกลับมา ต่อไปเราไปชมวิว Harbour Bridge ในจุดที่ใกล้กว่านี้ และไปชายหาดที่มีชื่อเสียงของ Auckland เด็กหลายคนได้ซื้อไอศครีมกินกัน ส่วนครูป้านและเด็ก 3-4 คน เดินไปซื้อเครื่องดื่มที่ Starbuck กัน คนเยอะ รอนานมากๆ เกือบไม่ทันเวลา
จากนั้นก็ไป Auckland Museum อาคารใหญ่ตั้งตระหง่าน สวยงามสะดุดตาจริงๆ เราเดินชมส่วนต่างๆที่มีทั้งหมด 3 ชั้น ออกเดินทางจาก Museum ตอนเที่ยง พอได้เวลาออกเดินทาง หนูแบมบี้กับคะน้าขอเข้าห้องน้ำ ส่วนเด็กคนอื่นๆขึ้นรถไปหมดแล้ว ครูป้านยืนรอสองหนูน้อยอยู่หน้าห้องน้ำ เวลาผ่านไปนานพอควร นึกแปลกใจทำไมนานจัง หรือว่าสองคนนี้ออกไปแล้วครูป้านไม่เห็น จึงเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วตะโกนถามว่าแบมบี้กับคะน้าอยู่ในนี้หรือเปล่า มีเสียงตะโกนตอบมา
แบมบี้: หนูอึ๊ค่ะเลยนานหน่อย
คะน้า: หนูเสร็จแล้วค่ะ แต่นั่งรอเป็นเพื่อนแบมอยู่ห้องข้างๆค่ะ
คะน้ากับแบมบี้รีบออกมาและเดินไปที่รถ ระหว่างทาง
แบมบี้: ครูป้านขา มันเหมือนจะไหลออกมาเลยค่ะ หนูยังอึ๊ไม่เสร็จเลยค่ะ
ครูป้าน: ฮ๊า!! แล้วทำไมไม่อึ๊ให้เสร็จ กลับไปอึ๊ต่อไม๊ ครูป้านไม่ได้เร่ง แค่เช็คดูว่าอยู่ในห้องน้ำป่าว
แบมบี้: ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้โอเคแล้วค่ะ มันโอเคแล้วค่ะ
เราเดินทางต่อไปที่ Paradice Ice Skating เด็กๆไปถึงก็ลืมหิวกันเลย ลงเล่นสเก็ตกันทันที มีเด็กบางคนกล้าๆกลัวๆไม่ค่อยมั่นใจ เช่น เอี๋ยว มิ๊นท์ ครูป้านก็เชียร์ให้ลองเล่นดู สรุปก็เล่นกันทุกคน ยกเว้น แสตมป์คนเดียว ที่ครูป้านรู้ว่าเชียร์ไม่ขึ้นแน่ เพราะแสตมป์ชอบปวดขา ครูป้านเลยพาแสตมป์ไปเลี้ยง KFC ข้างนอกแทน ครูป้านโทรหาครูปุ่นเผื่อว่าเด็กๆจะอยากสั่ง KFC แต่ในลานสเก็ตเสียงดัง ครูปุ่นไม่ได้ยิน เด็กๆเลยต้องกินอาหารในลานสเก็ตซึ่งไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ พอครูป้านกับแสตมป์เดินกลับมาบอกไปกิน KFC มา หลายคนโวยวายใหญ่ อยากกินมั่ง คนที่เล่นสเก็ตนานสุด มี เพ็ชรใหญ่ ฟลุ้ค เบน เฟิร์น ยุ้ย หลุยส์ น้ำผึ้ง ต้นไทร ตูน วิน เราออกเดินทางจากลานสเก็ตบ่ายสามโมงตรง มุ่งหน้าสู่ Otumoetai
วันที่สองของการผจยภัยในโอ้คแลนด์
17 April 2010 เช้านี้ ครูป้านกับครูปุ่นไม่อยากให้เด็กๆต้องตื่นเช้ามาก เลยตัดสินใจเดินไป Queen Street เพื่อไปซื้ออาหารเช้าที่แมคโดนัลให้เด็กๆแต่เช้า อาหารเช้าก็มี Sausage Muffin / Kiwi Big Breakfast + Yogurt Crunchy เราออกเดินทางกันตอนเก้าโมงเช้า เริ่มที่ Kelly Tarlton Underwater World ไฮไลท์ของที่นี่คือการนั่งรถชมความน่ารักของเพ็นกวินอย่างใกล้ชิด ออกจาก Kelly Tarlton สิบเอ็ดโมง ต่อด้วยสวนสนุก Rainbow End เราทานอาหารกลางวันกันที่สวนสนุก เด็กๆหลายคนไปเล่นตู้หยอดเหรียญที่มันจะหยิบตุ๊กตาขึ้นมา หลายคนได้ตุ๊กตา ที่จำได้มีโอม เอ็นดู ฟลุ้ค ฟลุ้คนั้นได้ Teddy Bear ตัวใหญ่มาก เดินกอดตุ๊กตาหมี น่ารักน่าเอ็นดู สงสัยขากลับต้องซื้อตั๋วเครื่องบินอีก 1 ที่ ให้น้องหมีด้วย ออกจากสวนสนุกตอนสี่โมงเย็น ครูป้านพาเด็กๆแวะ Count Down Supermarket กลับถึงที่พักจริงๆเกือบหกโมงเย็น พอกลับถึงที่พัก เพชรใหญ่ เบน ฟลุ้ค เฟิร์น ยุ้ย ขออนุญาตไปซื้ออาหารทานเองข้างนอก ครูป้านอนุญาตให้ไปได้โดยให้กลับมาไม่เกินสองทุ่ม แต่เด็กๆไปแป๊บเดียวก็กลับมา คุยโวว่าว่าเจอร้านอาหารจีน ได้ข้าวผัดมาหลายกล่อง ส่วนเด็กคนอื่นๆสั่งพิซซ่ามากินกันในที่พัก ร้านพิซซ่าบอก 30 นาทีได้รับ กว่าจะมาจริงๆชั่วโมงกว่า เด็กๆหิ้วท้องคอย บ่นกันอุบ น่าสงสารจริงๆ สุดท้ายก็ Happy Ending ได้กินพิซซ่าอร่อยสมใจ
ตะลุยโอ้คแลนด์
สวัสดีค่ะ สัปดาห์นี้เด็กเริ่ม settle กันแล้ว ครูป้านเลยได้เริ่มเขียน blog สักที
จากสนามบินสุวรรณภูมิมาที่โอคแลนด์เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง ครูป้านเริ่มไล่ให้เด็กๆเลิกดูหนังเล่นเกมตอนสี่ทุ่มครึ่ง เพราะกลัวจะพักผ่อนไม่พอและไม่สบายในวันรุ่งขึ้น กว่าจะนอนกันจริงๆก้ห้าทุ่มกว่า สามหนุ่มเพชรใหญ่ เบน ฟลุ้ค ดูเหมือนจะนอนไม่ค่อยหลับ
16 April 2010
มาถึงสนามลินโอคแลนด์สิบเอ็ดโมงกว่า ครูป้านมีการซักซ้อมเด็กเรื่องการตอบคำถามต่างๆตอนผ่าน Immigration และ Custom เด็กๆตื่นเต้นกันใหญ่จำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อโรงเรียน สุดท้ายการผ่าน Immigration และ Custom ก็เป็นไปอย่างราบรื่น เจ้าหน้าที่จากบริษัททัวร์มารับเราตามที่นัดหมาย ครูป้านถามเด็กๆว่าอยากไปเดินที่ Queen street เลยหรืออยากพักผ่อนก่อน คำตอบที่ได้รับเป็นไปตามความคาดหมาย ทุกคนอยากออกไปข้างนอก ครูป้านให้เวลาเด็กๆจัดการนำกระเป๋าเดินทางเข้าห้องพัก ล้างหน้า ล้างตา 30 นาที จากนั้นก็ออกไป Queen Street กัน แวะกินแมคโดนัลเป็นมื้อแรก แล้วก็เดินดูร้านรวงต่างๆไปเรื่อยๆ ปิดท้ายกันที่ Sky Tower ตอนสักหกโมงเย็น พวกเราแบ่งกันเป็นสองกลุ่มขึ้นลิฟท์คนละอันกัน พอลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นสูงๆ จะมีช่องกระจกให้เห็นด้านนอก หวาดเสียวมาก พอถึงชั้นบนสุด เด็กๆก็วี๊ดว๊าดกันถึงความหวาดเสียวและวิวที่สวยงามจากที่สูง ตัวครูป้านเองไม่อยากจะบอกว่าตอนเดินออกจากลิฟท์แทบจะก้าวขาไม่ออกเลย หวาดเสียวสุดๆ บน Sky Tower มีทางเดินเป็นช่องกระจกใสมองเห็นทะลุปรุโปร่งไปถึงด้านล่าง มีป้ายเขียนว่ากระจกนี้มีความแข็งแรงเท่าคอนกรีต เด็กที่มีความกล้าก็ทดลองเดินกัน ชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำกันพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลากลับที่พัก ซึ่งห่างจาก Sky Tower เพียงแค่ 2 block
ตอนเดินที่ Queen Street เด็กๆดูเหมือนเหนื่อยอ่อน แต่พอถึงที่พักก็คึกคักกันใหญ่ เล่นกัน คุยกันเสียงอึกทึกครึกโครม ตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกมาพักที่นี่ เพราะมีห้องนั่งเล่นให้เด็กๆมานั่งคุยกันได้ เด็กโตส่วนมากมารวมกันเล่นและคุยอยู่ห้องเดียวกันอัดแน่นไปหมด กระทั่งมีอุบัติเหตุอันแรกเกิดขึ้น ยุ้ยวิ่งไล่กับเพื่อนเซไปนั่งบนชั้นวางของข้างหัวเตียงที่แขวนติดผนังไว้ หลุดลงมาทั้งยวง ตรงส่วนที่ล็อคกับผนังเป็นรูโบ๋เลย น้องตกใจหน้าซีด ครูป้านไปแจ้งที่ Reception แต่เนื่างจากเป็น Apartment Hotel จึงไม่มีช่างประจำ เจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่าต้องรอจนกว่าจะถึงวันที่ช่างเข้ามาจึงจะทราบว่าซ่อมได้หรือไม่และมีค่าเสียหายไม๊ ครูป้านจ่ายมัดจำประกันความเสียหายไว้ด้วยบัตรเครดิตห้องละ 200$ ถ้ามีค่าเสียหายเค้าจะแจ้งให้ทราบและหักจากเงินมัดจำ จนถึงวันนี้เค้าก็ไม่ได้แจ้งอะไรมา คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร