KAS BLOG

Archive for the ‘UK Education Experience 2013’ Category

วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่พวกรามาโรงเรียน บางคนโฮสต์ก็ยังมาส่งอยู่  บางคนก็มาเองแล้ว  ครูแจก Bus Pass ให้ทุกคนไปตั้งแต่วันแรก เป็นแบบ Unlimited ขึ้นวันละกี่เที่ยวก็ได้ค่ะ  บ้านของพวกเราทุกคนอยู่เส้นทางเดียวกัน  มีรถเมล์สาย 1 กับ 1A ผ่าน  บางคนบ้านไม่ได้อยู่ Main Road ก็ต้องเดินจากบ้านออกมาป้ายรถเมล์ระยะหนึ่ง  ซึ่งเราต้องขึ้นรถเมล์มาลงใน Town และเดินต่อไปรร.อีกประมาณ 500 เมตร  ระยะทางรถเมล์วิ่งจากบ้านมาทาวน์แค่ไม่กี่นาทีค่ะ แปบเดว  เดินต่อก็สัก 10 นาที ก็ถึงรร.

เมื่อวานตอนเย็นซึ่งเป็นวันแรกของการเรียน ในช่วงบ่ายเราพาเด็กๆมาสำรวจเมือง Eastbourne กัน โดยเดินมาจากรร. ครูก็ย้ำว่าให้จำทางให้ดี  วันต่อไปเราต้องใช้เส้นทางนี้ตลอด  ไม่ได้เดินยากอะไร ตรงอย่างเดียว เลี้ยวแค่ครั้งเดียว แล้วก็พามาดูจุดขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ซึ่งอยู่ตรงหน้าห้างเลย  แต่เป็นฝั่งตรงข้าม (ภาพแรก) มีการ ย้ำ..ตรงนี้นะ  ฝั่งนี้นะ!!  หลังจากสำรวจเมืองเสร็จ เบย์กับพินขึ้นรถเมล์กลับบ้าน หลงค่ะ นั่งรถเลยบ้านไป  แต่ที่สุดก็กลับมาบ้านได้เรียบร้อย

ตอนเช้าวันถัดมา แก้ม เจมี่ พราว นาเดีย นัดมาพร้อมกัน ไปรอรถเมล์ผิดป้าย รถเมล์ก็ไม่มาซะที รอสักพักรถไม่มาซะที ไหวตัวทัน เลยเดินมาขึ้นอีกป้ายนึง ปรากฏว่าพอมาถึงทาวน์เรียบร้อย ดันจำทางเดินมารร.ไม่ได้อีก โทรมาถามทาง ที่สุดก็มาถึงรร.สายไปตามระเบียบ

ครู: ขึ้นรถเมล์ผิดป้ายนี่ไม่เป็นไรนะ  แต่ทางเดินมารร.นี่ พวกเธอตั้ง 4 คน ไม่มีใครซักคนจำได้เลยหรอ  4 สาว ส่ายหน้าแหง่กๆ

ช่วงเช้าเราเรียนตามปกติ อาหารกลางวันวันนี้ มีเมนูให้เลือกหลายอย่างตามปกติ  แตไม่ต้องคิดมาก  ทุกคนมุ่งหน้าไปที่แซลมอนสเต็ก yummy yummy สลัดผักก็แสนจะสด กร๊อบๆ สังเกตุถาดอาหารของพินนะคะ อาหารคาวหวาน ผักสด ครบครัน มันเยอะมวากกกกก

ช่วงบ่ายเรียนไป 1 คาบ อีกคาบเป็นการฝึกร้องเพลง English Traditional Song แล้วมีการฝึกคอรัสด้วย สนุกสนานดี  มีการเล่าประวัติที่มาของเพลงนิดหน่อยจากนั้นลุงแพทริคก็แจ้งพวกเราว่า อยากให้พวกเราเตรียมร้องเพลงไทย 1 เพลง เพราะอาทิตย์หน้าเราจะมีไป Venton Centre ซึ่งเป็น Club ของคนสูงวัยที่มาพบกันทุกวันพฤหัสฯ  จะมีกิจกรรมให้พวกเราไปพูดคุยกับผู้สูงวัย ซึงบุคคลเหล่านี้มีประสบการ์ชีวิตมากมาย นอกจากจะได้บุญที่ได้ช่วยสร้างสีสันให้เหล่าสว.แล้ว  พวกเรายังได้ฝึกภาษาอีกด้วย เราจะร้องเพลง Traditional English Song แล้วก็เพลงไทย  หนุ่มๆสาวๆตกลงปลงใจเลือกเพลง “ในหลวงของเรา” จากเรื่องสี่แผ่นดิน เบย์อาสาเล่นคีบอร์ด  พราวบอก หนูขออีกเพลงนะ  หนูชอบมาก “เพลงพี่มากขา” หนูจะออกแบบท่าเต้นให้ด้วยค่ะ  เอ้า! เอางัย..เอากัน  ก่อนหน้าที่จะไป Venton Centre 1 วัน จะมีงานเลี้ยงอำลานร.สวิส ลุงแพทริคบอกว่า อยากให้เราร้องเพลงในงานนี้ด้วย แต่ก็ไม่บังคับนะ สนุกๆ ดูเหมือนพวกเราจะยินยอมพร้อมใจ เย้ๆๆๆๆ นร.สวิสพวกนี้เค้ามาโปแกรมเรียนภาษา 3 วัน ทำงาน 2 วัน ซึ่งเรียนที่สถาบันเดียวกับพวกเราค่ะ

ตอนเลิกเรียนพวกเราทั้งหมดก็ไปขึ้นรถเมล์ที่ทาวน์กัน  วันนี้เราก็แวะสำรวจสินค้ากันพอหอมปากหอมคอตามปกติ  สาวๆสำรวจตลาดเสร็จก่อน กลับบ้านกันก่อน  เพราะต้องเตรียมตัวไปโบลิ่ง  ส่วนครูกับ 3 หนุ่มกลับทีหลังนิดหน่อย  ออกมาจากห้าง รถเมล์สาย 1A มาพอดี  อารามดีใจ กระโดดขึ้นรถเมล์ทั้งหมด 4 คน นั่งไปสักพักเริ่มรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่ทางที่เรามาเมื่อเช้านี้ แถมรถก็ติดไฟแดงและติดวงเวียนนานทีเดียว พวกเราเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์  บ้างก็บอกว่าสงสัย 1A มันมาทางอ้อมแวะเข้าตามซอยเล็กซอยน้อย  บ้างก็ว่าโฮสต์ผมเคยบอกว่ามันมีรถแบบวนรอบเมืองด้วย  ผ่านไปเกือย 40 นาที ครูเลยเดินไปถามคนขับ แกบอกว่าให้ข้ามถนนไปแล้วขึ้นสายเดิม  แล้วเราก็กรูกันลง   รอแปบเดียวรถเมล์ 1A ก็มา เราเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์กันต่อ บูมช่วยสรุปว่าเราขึ้นรถผิดฝั่งอย่างไม่มีข้อสงสัย รถวนกลับมาที่ทาวน์ตรงหน้าห้างที่เดิมเป๊ะ

ไช้: อ้าวเราไม่ลงที่นี่หรอครับครู

ครู: ไม่ลงครับ เด๋วมันก้ไปบ้านเรา

ไช้: อ๋ออออออออออออ….เราขึ้นรถผิดฝั่งนี่เอง

ครู: เอ่อ…ไช้ เค้ารู้กันตั้งนานแล้ว  ไช้ไปอยู่ไหนมา 555555555555555

วนไปวนกลับก็เกือบ 1 ชม. ระหว่างนั้น ครูบอกให้แนทโทรบอกโฮสต์เด๋วเค้าจะห่วงว่ากลับช้า  เป็นไปตามคาดหมาย พอโฮสต์รู้ ก็เป็นห่วงเป็นใย อธิบายละเอียดยิบว่าต้องกลับยังงัย  ส่วนบูมกะไช้บอก ไม่ต้องโทรหรอกครับครู โฮสต์ให้กลับช้าได้ เค้าไม่ว่า  พูดไม่ขาดคำโฮสต์ก็โทรมาถามบูมว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว บูมเลยบอกไปว่าหลงทาง กำลังกลับแล้ว 5555555

เราเริ่มเม๊ามอยกันบนรถเมล์ต่อ  เมื่อเช้านี้พวกสาวๆ 4 คน หลงทาง ครูก็บอกว่าไม่มีใครสักคนจำได้เลยหรอ  ตอนนี้พวกเราก็ 4 คน ขึ้นรถผิดฝั่ง ไม่มีใครจำได้เลยหรอ  ฮา..ครืน ใครว่าเขา อิเหนาเป็นเอง 555555555555555  คือแบบว่าอารามดีใจรถเมล์มาพอดี ไม่ต้องยืนหนาวคอย ก็กระโดดขึ้นเลย ลืมไปสนิทว่าต้องขึ้นอีกฝั่ง ไม่มีใครรู้เรื่องนี้  นอกจากพวกเรา 4 คน  ไม่มีใครรู้จริงๆ ^^

ยัง..ยังไม่จบแค่นั้น บูมลงรถเมล์ก่อนครู 1 ป้าย  สักพักโทรมา ครูครับ เมื่อกี๊ผมโดนหลงผิดซอยอีกแล้ว แผนที่มันงงๆ แต่ตอนนี้ถึงบ้านแล้ว ^^

คืนนี้รร.จัดให้เราไปเล่นโบลิ่งกับนักเรียนชาวสวิส  เรามีนัดกันทุ่มครึ่งที่ David Lloyd Lanes  บางคนโฮสต์มาส่ง  บางคนโฮสต์มีลูกเล็กมาส่งไม่ได้ เจ้าหน้าที่รร.ก็ไปรับมา  พวกราส่วนมากไม่เคยเล่น ก็เหนียมอายกันหน่อยแถมเค้ายังจัดให้เราเล่นร่วมทีมกับนร.สวิสอีก  นร.สวิสก็น่ารัก ช่วยสอนให้พวกเรา  ก็สนุกดี ทีมของเจมี นาเดีย พราว เหมือนจะเข้ากันกับนร.สวสิสได้ดีทีเดียว  3 หนุ่มเราก็ฝีมือไม่เบาและได้ร่วมทีมกับเพื่อนชาวสวิสน่ารักนิสัยดี  ส่วนเบย์ พิน แก้ม ก็เหนียมๆกันหน่อย แก้มขนาดไม่เคยเล่น ฝีมือใช้ได้ทีเดียว  เรื่องล้างท่อนี่ไม่ต้องห่วง  เป็นเรื่องปกติล้างท่อกันสะอาดไม่ว่าจะสวิสหรือไทย อย่าได้แคร์!!!!!!!  สามทุ่มกว่าเกมส์จบได้เวลากลับบ้าน 3 หนุ่มมีโฮสต์มารับ (น่าหมั่นไส้) ส่วนสาวๆที่เหลือรร.จัดรถ 2 คันไปส่งบ้าน

กลับถึงบ้านครูรู้สึกเหนื่อยแฮ่ก แถมต้องสระผมอีก เลยหมดแรงเขียน  วันนี้ (Apr.5) เลยแบกคอมมานั่งทำบลอคที่รร.นี่แหละค่ะ

อ้อ! ลืมเล่าไป เมื่อคืนมีหิมะตกปรอยๆ ให้สนามหญ้าและหลังคาบ้านได้มีสีขาวประปราย  ตอนกลางวันก็มีหิมะปรอยๆตกมาพร้อมฝน  ตอนเดินไปทาวน์หลังเลิกเรียนก็มีอีกค่ะ หนาวจับใจเลยมีเดียว!!

สวัสดีค่ะ

หลังจากอำลาคุณพ่อคุณแม่กันแล้ว เราก็ไปเดินเล่นในสนามบิน และนั่งเล่นที่ STARBUCKS กัน บนเครื่องส่วนมากไม่มีใครนอน ดูหนัง เล่นเกมกันตลอด ซึ่งครูก็ว่าดี  เพราะจะได้ไปนอนทีเดียวเลยตอนถึงอังกฤษ และวันรุ่งขึ้นจะได้ปรับตัวได้

เราเดินทางมาถึงสนามบิน London Heathrow ตอนหนึ่งทุ่มตรง  ตม.ถามละเอียดยิบ  ทุกตนต้องพิมพ์ลายนิ้วมืออีกรอบเหมือนที่สถานฑูต คิวก็ยาวเหยียด ปรากฏว่าน้องพราวของเราลายนิ้วมือไม่ตรงกับที่ทำไว้ที่สถานฑูต  เจ้าหน้าที่เค้าให้นั่งรอ  แล้วก็นำพาสปอร์ตน้องไปตรวจสอบอะไรสักอย่างแล้วก็กลีบมาคืนให้ เจ้าหน้าที่เค้าก็พูดจาน่ารักนะคะ ผ่านไปได้ด้วยดี ใช้เวลาในการผ่าน ตม. 1.30 ชม.และกว่าเราจะออกจากสนามบินก็ สามทุ่มพอดี

อังกฤษต้อนรับพวกเราด้วยอุณหภูมิ 0 องศา เรานั่งรถมินิบัสต่อไปยัง Eastbourne โฮสต์ทยอยกันมารับ  ครูป้านกำชับไปว่าให้รีบนอน ยังไม่ต้องรื้อกระเป๋าอะไรมากมาย ไว้พรุ่งนี้ค่อยทำ เพราะเหนื่อยกันมามากแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบาย

เช้าวันนี้ 3 เมษายน 0 องศา อีกแล้ว หนาวจับใจ  นัดให้มารร. 10 โมงค่ะ จะได้นอนตื่นสายกันหน่อย  ปรากฎว่ามีคนรื้อกระเป๋าจนดึกมาก  และมีคนสระผมก่อนนอนอีกด้วย  แหมน่าตีจริงๆเลย

เค้าให้เด็กๆทำข้อสอบกัน  เพื่อดูคะแนนว่าใครเป็นอย่างไรบ้าง  แข็งตรงไหน อ่อนตรงไหน มื้อเที่ยงของ 2 อาทิตยืแรกนี้ เราไม่ต้องเอาแซนวิชมาจากบ้าน เนื่องจากมีนักเรียนจำนวนมากจาก Swiss มาเรียนภาษาที่เดียวกับเรา  เค้าสั่งให้ canteen ทำอาหารกลางวัน  ครูป้านเลยจ่ายตังค์ขอแจมกะเค้าด้วย เราจึงได้กินอาหารร้อนๆ กันค่ะ  อร่อยด้วย  เมนูวันนี้ มี แกงไก่ คล้ายๆอาหารอินเดีย  ลาซานย่าเนื้อ  พาสต้าอบชีส สลัดบาร์ ผลไม้สด และของหวานครบครัน  อิ่มพุงกางกันเลย!!  ช่วงบ่ายเรียนนิดหน่อยแล้วก็พากันเดินไปแนะนำและสำรวจตัวเมือง Eastbourne กัน  เดินไปจากรร.ไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ เราซื้อซิมกันเรียบร้อยแล้ว  บางคนก็ซื้อขนมตุนกัน  หลายคนก็เดินสำรวจตลาดไปพลางก่อน

เบอร์โทรตามนี้นะคะ

ครูป้าน  +44 7 593 710 077

เจมี่ +44 7 511 493 013

แก้ม +44 7 593 710 069

พราว +44 7 731 546 047

นาเดีย +44 544 579 916

พิน +44 7 731 546 056

เบย์ +44 544 595 514

บูม +44 7 922 585 598

ไช้ +44 7 593 710 074

แนท +44 7 731 546 049

ซิมที่เราซื้อมาเป็น O2 นะคะ  จ่ายไปคนละ 20 ปอนด์ โทรหาในเครือข่ายเดียวกันฟรี  ใช้ 3G ได้ 500 MB ถ้าใช้เกินก็ชาร์ตแค่ 1 ปอนด์ต่อวัน  ครูบอกเด็กๆว่า ถ้าจะคุยกับคุณพ่อคุณแม่ ตอนอยู่บ้านให้ต่อ wifi แล้วคุยผ่าน Line จะชัดและประหยัดกว่าค่ะ

วันนี้ครูป้านยังมึนๆอยู่  ขอเขียนแค่นี้ก่อนนะคะ (ไม่รู้เขียนเบอร์ใครผิดไปบ้างป่าว)

UK Education Experience